ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ปัญญามีสมันตปาลากา อรรถกถพระวินัย ปริวาร วันนา - หน้าที่ 945
ย่อมะแข็ง คือย่อมถึงความประกอบโดยชอบ ด้วยสัมมาวินัย.
แต่ในธรรมเหล่านี้ สัมมาวินัยอย่างเดียวแล เว้นสมทธ์หลายเสีย
ย่อมะแข็ง คือ ย่อมถึงความเป็นสมะได้ จริงอยู่ ขึ้นชื่อว่าความ
เว้นจากสมะอันเสียด สำเร็จไม่ได้ แห่งสัมมาวินัยนั้น หามิได้ ด้วย
เหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า "ในอาบัติ ๓ กองนี้ อาบัติกรองหนึ่ง เว้น
สมะเสียดระับได้" เนือความนี้ ท่านกล่าวไว้ในอรรถกถาทั้งหลาย
โดยอธิบายนี้ก่อน แต่ข้าพเจ้าอธิบายเนื้อความเพียงปฐมแห่งนิบาต
คืออิท คือชอบใจเนื้อความนี้ว่า "ว่าา เอกกตฺว สมดฺติ วินา
สมเดทฯ" มีความว่า ในอาบัติ ๓ กองนั้น กองอาบัติปาราชิกกอง
เดียว เว้นสมเสียดีกระรับได้ คือ ย่อมะรับด้วยสมทะทั้งหลาย
หมู่ได้ จริงอยู่ แม้พระผู้มีพระภาคก็ได้ตรัสว่า "อาบัติใด
ไม่มีส่วนเหลือ อาบัตินั้น ย่อมะรับด้วยอธิกรณ์ไหน หมายได้, ย่อม
ระงับในสถานเหลือ อาบัตินั้น ย่อมะรับด้วยอธิกรณ์ไหน หมายได้."
[ผู้ทำลายสมะไปสู่อนาย]
บทว่า อุทธทยุตฺต มีความว่า [สฺษฯ] พึงทราบบุคคล
ผู้ทำลายสมะต้องไปสู่อนาย ๑๔๕ พวก ด้วยอำนาจหมวดแปล ๑๔
หมวดเนื่องด้วยภกฤตวัตถุ ๑๔ ที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ในสงฆเมท-]
นธกะอย่างนี้ว่า "อุบาสี กิเลสในธรรมวินัยนี้ มีความเห็นใน
ประเภทแห่งอธิมกุฏฐ์นั้นว่า ไม่เป็นธรรม มีความสงสัยในประเภท
แห่งอธิมกุฏฐ์นั้นว่า ไม่มีธรรม มีความสงสัยในประเภทแห่ง