ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ปัญญา สมันดุลจิต ถวายพระวัน วิริยะ วันนา - หน้าที่ 857
ในอนุโมทวีณี ที่สงฆ์ให้แล้วแก่กุฎิผู้นี้ก็ดี ในศาสาปิลสกา
อนุสงฆ์ให้แล้วแก่กุฎิผู้นี้บาปแน่นก็ดี มีนายเหมือนกัน
สองมากว่า ติดตาภารํ องกฤภูมิ มีความว่า เมื่ออธิกรณ์
อนุสงฆ์ระบับแล้ว ด้วยถิ่นวัตถาระสะ เถรราชาอาติ ที่กุฎิเข้า
ไปหากุฎิรูปหนึ่งนั่งกระ โหยงประถมมือแสดงเสียด ชื่ออ่อมออก
ก็กุฎิแม่กล่าวอย่างว่า `ชื่อว่าการออกจากอาติ แม้ของ
กุฎิผู้หลับอยู่ นี่ใด การออกจากอาติ้น ไม่ชอบใจพ่มเข้า ได้ดัง
ชื่อว่ารอดินวัฏฏานะ : (๒๕๕) คงเป็นปฏิทัศน์ แม้กุฎิ่นั้น
[ว่าด้วยองค์ ๔ เป็นเหตุอธิกรณ์]
หลายบทธว่า ฉันทาทิฏฐิ-๑ เปรียญคุณโฉติ อภิญญ์ อภิญญ์ อภิโก-
ฏิ มีความว่า กุฎิเป็นพระวัณธร เมื่อแสดงธรรมว่า “ธรรม”
เป็นอาติ รืออธิกรณ์ที่ส่งมีจัยเสร็จแล้วในกาลก่อน ด้วยการรื้อ
๑๒ อย่าง ฯ ใดอย่างหนึ่ง เพื่อประโยชน์แก่ชนที่รักมีอุบายเป็นตัน
ของตน ชื่อว่าถึงฉันทาทิฏฐิ-ร้อยอธิกรณ์
ก็ในกุฎิผู้เป็นบุตรศึกษากับ ๒ รูป กุฎิผู้ขาวนาทในฝ่ายหนึ่งเกิด
ขึ้นโดยนัยเป็นตั้วว่า “เขาได้ประพฤติความฉันทายายเท่าเรามา” เมื่อ
แสดงธรรมว่า “ธรรม” เป็นต้น รืออธิกรณ์ที่สงงมีจัยเสร็จ
แล้วในกาลก่อน ด้วยการรื้อ ๑๒ อย่าง ฯ ใดอย่างหนึ่ง เพื่อความแพ้
ให้กุฎิผู้นี้เป็นบุตรศึกษากัน ชื่อว่าถึงโทษาคติ รืออธิกรณ์
ฝ่ายกุฎิผู้ไม่งาม เมื่แสดงธรรมว่า “ธรรม” เป็นต้น