ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - จุดดื่มสมุนไพรสากกะสา อรรถาธิบายพระวินัย อุตรวรรค วรรคา - หน้าที่ 539
มา ๘ เดือนแล้ว" เสนาะนะนั้นต้องให้ภิกษุผู้บำรุงมา ๘ เดือนนั้นแล้ว
ส่วนในเสนาะนะใด พวกเจ้าของถวายปัจจัยปีละ ๒ ครั้ง,
เสนาะนะนั้น ไม่ควรให้ถือเป็นอันตรามุกคะ ทุกคราวที่ล่วง ๖
เดือน. หรือว่าในเสนาะนะใด พวกเจ้าของถวายปัจจัยปีละ ๓ ครั้ง
เสนาะนะนั้น ไม่ควรให้ถือเป็นอันตรามุกคะ ทุกคราวที่ล่วง ๔
เดือน. หรือในเสนาะนะใด พวกเจ้าของถวายปัจจัยปีละ ๔ ครั้ง,
เสนาะนะนั้น ไม่ควรให้ถือเป็นอันตรามุกคะ ทุกคราวที่ล่วง ๓
เดือน. เพราะว่า เสนาะนะนั้น จักได้บำรุงด้วยปัจจัยแท้.
ส่วนในเสนาะใด พวกเจ้าของถวายปัจจัยมากเพียงปี
ละครั้ง, เสนาะนะนั้น ควรให้ถือเป็นอันตรามุกะได้.
กฎว่า ด้วยวิธีถือเสนาะ ซึ่งมาในบาใต้ โดยวันเข้าพรรษา
ภายในฤดูฝน เท่านั้น.
[การถือเสนาะในฤดูภา]
ก็คือชื่อว่า การถือเสนาะนี้ ย่อมมี ๒ อย่าง คือ คือ ในฤดู
กาล ๑ ถือในวาสากาล ๑.
[๒๕] ใน ๒ อย่างนั้น พึงทราบวินิจฉัยในฤดูเก่า ก็คือ
อาคันดูบางพวกมาในเวลเช่า, บางพวกมาในเวลาบ่าย, บางพวก
มาในปฐมยาม, บางพวกมาในมัชฌิมยาม, บางพวกมาในปัจฉิมยาม
ก็มี; พวกใดมาในเวลาใด, ภิกษุผู้เสนาะกาหปะ พึงให้ภิกษุ
ทั้งหลายลูกขึ้นแล้วให้เสนาะแก่พวกนั้นในเวลานั้น เทียว ขึ้นชื่อว่า