ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - จุดดูลสมดุลปาเสาทิกา อรรถกถาพระวินาย องครวร วรฺรา - หน้าที่ 549
พระมหาสมัฏท์ว่า "แต่ผ่า เมื่อภิญญูผู้เสนาน-
ถามปะกล่าวว่า "ท่านผู้เจริญ เสนานะอันท่านคือเอาแล้วหรือ?
พระมหาเถระกล่าวว่า "เราอถือเอา" หรือเมื่อภิญญูผู้เสนาน-
ถามปะกล่าวว่า "ท่านผู้เจริญ ท่านจักถือเอาหรือ?" พระมหาเถระ
ตอบว่า "เราจักถือเอา" ดังนี้ เสนานะฉนไม่เป็นอันถีอือ.
ฝ่ายพระมหาเถระปุมัติเอว่า "ถ้อยคําเป็นอัตดลและอนาคต
[๓๒] หรือถ้อยคํเปนปัจจุบันกสมทิ อันที่จริง ถ้อยคำเพียงทำ
ให้ได้ดี เพียงเป็นเครื่องทำลายเท่านั้น เป็นประมาณในการถือ
เสนานะนี้ เพราะเทุ่นั้น เสนานะเป็นอันพระมหาเถระเอาแล้ว
แท้."
ฝ่ายภิญญูผู้ถือขังสุดใจ ถือเสนานะและแล้วสละปัจฉัยเสีย.
แม้ปัจฉัยก็ภิญญูนั้นลละแล้วนี ไม่มีโอนใปในอาวาสอัน ; พึงไว้นใน
อาวาสนั้นแล จะให้กุอธิษฐานถึงอยู่ที่โรงเพลิง หรือที่ศาลาาย หรือ
ที่กนบไมในบริเวณนั้นแล ถือเอาก็ครวร.
ภิญญูผู้ถือขังสุดใจ "จะอยู่" แล้วจึงบำรุงเสนานะ.
ภิญญูนอกนี้รับว่า "ถกถือเอาปัจจัย" แล้วจึงบำรุงเสนานะ.
เสนานะจึงเป็นอันได้รับบำรุงเป็นอันังคดึง ด้วยเหตุ ๒ ประการ ด้วย
ประการณะนี้.
แต่ในมหาปัจฉิเรียกว่า "เมื่อภิญญูผู้ถือขังสุด๓ รับเสนานะ
เพื่อประโยชน์แก่การอยู่ภิญญูผู้สนานกาหาปะว่า "ใน
เสนานะนี้มีปัจจัยนระอรบ์ ปีจึงนั้นสมควรทำอย่างไร ?ภิญญูผู้