ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ฉุดภูสมิงตา องค์พระวีนัย องลัศ วรรณะ - หน้าที่ 441
แล้ววันนั้นแหละ เมื่อภิกษุทั้งหลายออกจากกรมาแห่งโรงไปเสีย จะเก็บในสำนักภิกษุเดี่ยว กิโคร. ภิกษุออกจากกรมาแห่งโรงไปแล้ว จึงกลับได้สิทธิ พึงเก็บในสำนักภิกษุได้ด้วยกัน. ถ้าภิกษุนั้นก็หลักไปเสีย ยังไม่ได้บอกแก่ญาติอุ่น รูปใด ที่ในโรง, พึงบอกแก่มิกุธนันให้รู้แล้วให้เกิด และเมื่อบอก พึงกล่าวว่า เวทยิตติ ม อายสมา ธาราสูง ของผู้มีอายุขุททรงจำว่า "บอกให้รู้" เทอญ ดังนี้ ในอสนาน.
เมื่ออาบอกแก่ภิกษุ ๒ รูป พึงกล่าวว่า อายสมุนตฺ ธารณดุก. เมื่ออาบอกแก่ภิกษุ ๓ รูป พึงกล่าวว่า อายสมโโน ธารณดุก. จำเดิมแต่เวลาที่เก็บแล้วไป คงตั้งอยู่ในฐานูปฏิคัตต์. ถ้าวิภูก่อนน้อย ภิกษุผู้เป็นสาคร่วมอยู่; ไม่ต้องเก็บวัตร นับราศี ณ ภายในวันนั้นแหละ. ถ้าไม่อาจให้หมดจด. พึงเก็บวัตรตาม นิยที่กล่าวแล้วนั่นแหละ [๒๕๗] พร้อมด้วยภิกษุ ๔ รูปหรือ ๕ รูป และ ออกจากทางใหญ่มุ่งในที่กูบัง ด้วยพุ่มไม้หรือด้วยรั้ว ให้เลย ๒ เลกทุบตามเครื่องส่องแห่งวัดที่ออให้ส่องจากที่ครูแกเครื่องส่องแห่งวัดที่ไม่ได้ล้อม ในเวลาใกล้รุ่งก็เทียว. พึงสมาทานวัตรแล้วบอกตามนัยที่กล่าวแล้วนั่นแหละ เฉพาะในภายในอุรุน. ถ้าภิกษุอุบางรูปมาที่นั้น ด้วยกิจจำเป็นเฉพาะบางอย่าง; ถ้ามาติดตริกกิจุนนั้น เห็นกิณุนนั้น หรือได้ยินเสียงของเธอ ควรบอก เมื่อไม่บอก เป็นรัดเดน ทั่งเป็นวัดตนท. ถ้าภิกษุนี้ลำอุปารเข้าไป ๑๒ คอกแล้วไปเสียแต่เมื่อมานัต-