ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระฉิมปฏิรูปฉบับแปล ภาค ๑ หน้า ๑๑
[คนมียุยอมน้ำหนักในเหตุ]
ธรรมดาผู้มีบุญทั่งหลาย ย่อมเป็นผู้เป็นไปในอำนาจแห่งเหตุ จึงรับมาความเลื่อนไปแห่งระลอกทั้งหลายไว้ได้ ก็สาขาของพระตลากง
แม้ทั้งหมดที่ถึงฐานนคร ตั้งต้นแต่นชน้ง ๔ เหล่านี้ คือ อัครสาวก
๒ รูป คือ พระสาริญบุตรเณร พระมหาโมคคลานเณร, อัครสาวก ๒ รูป
คือ นางเขมา นางอุบลวรรณา, บรรดาอุบาสกทั่งหลาย อุบาสิกาผู้เป็นอัครสาวก ๒ คน
คือ มารดาของนมัทนาพ ชื่ออุปัฏฐกะนาถา, นางสุชฎา, (ล้วน)
มีบุญมาก สมบูรณ์ด้วยอภิญญา เพราะความเป็นผู้บำเพ็ญบุญมามี ๑๐
โดยอภิกขิต
[พระราชาเสด็จไปทราบบุญสมดล]
แม้พระอานนท์เณร มีบารมีอ่อนบ่ำเพียรแล้วตั้งแสนกับ สมบูรณ์
ด้วยอภิญญา มีอุปัฏฐกะม เมื่อจะรักษาความเลื่อนไสของระลอก จึงได้
ยืนอยู่ เพราะความที่ตนเป็นไปในอำนาจแห่งเหตุ, พวกชนนบ
ินิมนต์ท่านรูปเดียวเท่านั้นให้ลงแล้วอังคาส. พระราชาสด่มในเวลาที่พวกกิฬไปแล้ว ทอดพระเนตรเห็นนั่นยะและโภคียะตั้งอยู่
อย่างนันแล จึงรำถามว่า "พระผู้เป็นเจ้าทั้งหลายมีมากหรือ ? "
๑. บารมี ๑๐ คือ ทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมบารมี ปิยาบารมี วิริยะบารมี จตันบารมี
สัจจะบารมี อภิญญาบารมี เมตตาบารมี อุปบาทบารมี.