ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระอิ่มปะทุตถูกแปลภาค ๑ หน้า 267
ทั้งหลายไม่สามารถจะฉันข้าวรูปซากามมีน้อยเป็นนิยตได้." มารดา
บิดา แม้ของสามเณรนั้น ได้ไปสู่เรือนในเวลานั้นในวันที่ ๓. ใน
วันที่ ๘ สามเณรเข้าไปในบทบาทกับภิกษุทั้งหลาย.
[สามเณรมีลาภมากเพราะผลทานในกาลก่อน]
ชาวเมืองสาวดี กล่าวว่า "ได้จนว่า สามเณรจัดเข้าไป
บิณฑบาตในวันนี้, พวกเราจักทำสักการะแก่สามเณรนั้น" ดังนี้
แล้ว จึงทำเทียนด้วยผ้าสกุลประมาณ ๕๐๐ ผืน จัดแจงบิณฑบาต
ประมาณ ๕๐๐ ที่ ได้แล้ว ไปเป็นคณะกวาดแล้ว. ในวันที่รุ่งขึ้น ได้มา
สู่ป่าใกล้วิหาร ถวายแล้ว. สามเณรได้บิณฑบาตพบหนึ่ง กับผ้าสกุลพันหนึ่ง โดย ๒ วันเท่านั้น ด้วยอาการอย่างนี้ ให้คนถวาย
แก่อากาศสงฆ์แล้ว ได้จนว่า นั่นเป็นผลแห่งผ้าสกุลเนื้อหยาบที่
สามเณรถวายแล้วในคราวเป็นพรหมนี่แหละ. ถัดจากนั้น ก็ถึงทุงหลหลาย
ขนานนามสามเณรว่า "ปิ่นทปาตกาทกัลละ" รุ่งขึ้นวันหนึ่ง
ในฤดูหนาว สามเณรเที่ยวจาริกไปในวิหาร เห็นภิกษุทั้งหลาย ผิงไฟ
อยู่ในเรือนไฟเป็นต้นในวันที่ ๙ จึงเรียนว่า “ท่านอนุร บเลยใจ
ท่านทั้งหลายจงอิงฉิงนี้จิงไฟ ?”
พวกภิกษุ ความหนาวเบียดเบียดพวกเรา สามเณร.
สามเณร ท่านขอรับ ธรรมดาในฤดูหนาว ท่านทั้งหลาย
ควรห่มผ้ากัมพล เพราะผ้ากัมพลนั้น สามารถกันหนาวได้.
พวกภิกษุ. สามเณร เธออนุญาตมาก พึงได้ผ้ากัมพล พวกเรา
จำได้ผ้ากัมพลแต่ไหน ?