ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระภิษัปปะที่ถูกจูงแปล ภาค ๑ - หน้าที่ 124
ทำเป็นกฐินจอบอยู่บ่อบหนึ่งแล้ว ได้ให้คำตอบว่า "มี นาย" ท้าว สักกะ ตรัสว่า "ท่านเจ้าข้า พระคุณเจ้า อย่าคิดเลยว่า ทาน เศร้าหมอง หรือประดิษฐ์ โปรดทำความสงเคราะห์แก่ผมทั้ง ๒เกิด" ดังนี้แล้ว ก็ทรงรับบาตรไว้ พระเถระ คิดว่า"ทานที่ ๒ ผิวเมื่อนั้นถวายแล้ว จะเป็นน้ำผักดองหรืออำคำมือหนึ่งก็าดมา ที่จะทำความสงเคราะห์แก่ ผิวเมื่อนั้น" ดังนี้แล้ว จึงได้ให้นำธารไป. ท้าวสักกะนั้น เสด็จเข้าไปภายในเรือน แล้ว ทรงจุดข้าวสกลอกออกจากมือ ใส่เต็มบาตรแล้ว มอบถวายในวันที่พระเถระ. บันเทาทนั่น ได้มีสุขทัศนะแบกมากมาย ได้กลมตบหัวกรุงราชคฤห์แล้ว.
[ท้าวสักกะตรัสบอกความจริงแก่พระเถระ]
ในวันนั้น พระเถระ คิดว่า "ชายนี้ มีคำดีหนอ indeed ยินทาบาต มีคำดีมาก เช่นกับโภชนาของท้าวสักกะ นั่น ใครหนอ?" ครั้งนั้น พระเถระ ทราบชายนี้ว่า "ท้าวสักกะ" จึงกล่าวว่า "พระองค์ทรงแย่งสมบัติของคนเข็ญใจ" (จัตว่า) ทำธุรหนักแล้ว, ใคร ๆ ก็ตาม ที่เป็นคนบำบัด ถ้วยกนาตาแก่อาจมภาพในวันนี้ พึงได้ตำแหน่งเสนาบดี หรือตำแหน่งเศรษฐี."
สักกะ. ผู้ที่เจ้าขอไปว่ากระผม ไม่มีเลย ข้อรับ.
พระเถระ พระองค์เสวยสิริราชสมบัติในเทวโลก จะว่าเป็นคนเจ้าขอ เพราะเหตุไร?
สักกะ. อย่างที่พระผู้เป็นเจ้าว่า กีดกะ ขอรับ. แต่เมื่อพระพุทธเจ้า ยังมิทรงอุปติ, กระผมได้ทำกล้วยทำนิสกรรมไว้, เมื่อ