ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระอุปปปิทฺุฏิฏฺฐา ภาค ๑ หน้าที่ 237
ไปเพื่อสิ่งมิใช่ประโยชน์ถือเป็นกุศลแก่มนุษย์นั้น" ก็ในตำที่พระมหาโมคคัลลานะเห็นแล้วนั้นแลองพระศาสดาจงเป็นพยานของท่าน ตรัสเรื่อง ๒๐ เรื่อง แม้ในคำบอกกล่าวแล้ว แม้เรื่องนี้ พระเคราะห์นั้น ก็กล่าวไว้อย่างนั้นเหมือนกัน ภิกษุทั้งหลายฟังเรื่องนั้นแล้ว จึงฉูกถามบูรพกรรมของปรตน. แม้พระศาดา ก็ตรัสแก้กิบบญหลานนี้ว่า :-
[บูรพกรรมของอิทธิป]
"ได้ยินว่า ในอดีตท่าน พวกชาวศรีอยุธยา ครงสร้างบรรณฑศาลาไว้เพื่อพระปิ่นกุพุทธเจ้า ใกล้สังแม่ไม้ พระปิ่นกอ- พุทธเจ้านั้น อยู่ในบรรณะศาลานั้น ย่อมเที่ยวไปบิตนบดในเมืองเนืองนิตย์ แม้ว่าชาวเมือง มีมือถือสีการะมีของหอมและดอกไม้เป็นต้น ไปสู่ที่บูชาของพระปิ่นกุพุทธเจ้า ทั้งนี้ทั้งนั้น ชุรบูรญพุทธศิลานึ่ง อาศัยหนทางนั้นในนา มหาชน เมื่อไปสู่ที่บูชาของพระปิ่นกุพุทธเจ้า ย่อมเหยียบย่ำกันนั้นไป ทั้งนี้ทั้งนั้น ชาวนา แม้ห้ามู่ว่า "ขอพวกท่านอย่าเหยียบย่ำบนของเจ้" ก็ไม่สามารถจะห้ามได้. ครั้งนั้น ชาวนั่น ได้มีความคิดอย่างนี้ว่า "ถ้าบรรพตราศาลาของพระปิ่นกุพุทธเจ้า ไม่มีพิมพ์ในที่นี้ได้; ชนทั้งหลายก็ไม่พึงเหยียบย่ำยานของเรา." ในกาลที่พระปิ่นกุพุทธเจ้าเข้าไปบิณฑบาต ชาวนั่น ทุบฐานะเครื่องใช้แล้วเผารบรรรศาลเสีย. พระปิ่นกุพุทธเจ้า เห็นบรรรศาลานั้นถูกไฟไหม จึงกลิ้งไปตามสบาย. มหาชน ถือของหอมและระเบียบดอกไม้มา เห็นบรรรศาล