ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
ชีวิตที่ประเสริฐ
๑๕
นายสารถีกราบทูลว่า “หยาดน้ำค้างเหล่านั้น เมื่อดวง
อาทิตย์ขึ้นก็จะเหือดแห้งหายไป พระเจ้าข้า” พระองค์ทรงสลด
พระทัยยิ่งนัก ดำริว่า “แม้ชีวิตและสังขารของตัวเรา รวมทั้ง
สัตว์ทั้งหลายต่างเป็นเสมือนหยาดนํ้าค้างบนปลายยอดหญ้า
ตอนนี้เรายังไม่ถูกความแก่ ความเจ็บและความตายมาเบียดเบียน
ยังอยู่ในวัยที่แข็งแรงอยู่ ควรจะอำลาพระมารดาและพระบิดา
ออกบวชจะดีกว่า”
พระองค์ถือเอาความสิ้นไปของหยาดน้ำค้างนั้นเป็น
อารมณ์ จึงมองเห็นภพทั้งสามดุจมีเพลิงลุกไปทั่ว จากนั้นได้
เสด็จไปหาพระบิดาซึ่งกำลังประทับอยู่ ณ ศาลาวินิจฉัย เพื่อทูล
ลาบวช พระบิดาทรงห้ามว่า “อย่าผนวชเลย ถ้าเธอยังพร่องใน
เบญจกามคุณทั้งหลาย ฉันเพิ่มเติมให้ ถ้าผู้ใดเบียดเบียนเธอ
ฉันก็จะห้ามปราม” พระกุมารยุธัญชัยกราบทูลว่า “หม่อมฉันไม่
ได้พร่องด้วยกามทั้งหลายเลย และไม่มีใครเบียดเบียนหม่อมฉัน
ด้วย แต่หม่อมฉันปรารถนาจะทำที่พึ่ง ที่ความแก่และความตาย
ครอบงำไม่ได้ พระเจ้าข้า”
พระกุมารทูลขอบรรพชาอยู่เรื่อยๆ พระบิดาตรัสห้าม
ทุกครั้ง ต่างวิงวอนขอร้องซึ่งกันและกัน แม้มหาชนในที่นั้น
พากันทูลอ้อนวอนไม่ให้พระโอรสบวชเช่นกัน พระกุมารยุธัญชัย
ได้ทูลพระบิดาว่า “ข้าแต่พระบิดาผู้เป็นจอมทัพ พระองค์อย่า