ข้อความต้นฉบับในหน้า
Boประช
ถึงเวลาแล้ว
๑๐
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ผู้บริสุทธิ์หลุดพ้นแล้วจากกิเลสอาสวะ กิจที่จะทำยิ่งกว่านี้ไม่มี
อีกแล้ว เราจึงควรดำเนินชีวิตตามแบบอย่างพระพุทธองค์
โดยมุ่งทําความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ เป็นอันดับแรก ส่วนเรื่อง
อื่นนั้นให้เป็นเรื่องรองลงมา เพราะเรายังมีกิจที่จะต้องทำให้รู้แจ้ง
ให้ได้ว่า เราเกิดมาจากไหน มาทำไม อะไรคือเป้าหมายของชีวิต
เพราะฉะนั้น เราจึงควรหมั่นฝึกฝนอบรมจิตใจของเราให้หยุด
ให้นิ่ง จนกระทั่งเข้าถึงผู้รู้แจ้งภายใน คือ พระธรรมกาย
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ใน ขุททกนิกาย
ธรรมบทว่า
“มตตาสุขปริจจาคา ปสฺเส เจ วิปุล์ สุข
จเช มตฺตาสุข์ ธีโร สมฺปสฺสํ วิปุล์ สุข
ถ้าว่านักปราชญ์พึงเห็นความสุขอันไพบูลย์ได้ เพราะ
ยอมสละสุขพอประมาณ เมื่อผู้มีปัญญาเล็งเห็นสุขอันไพบูลย์
ก็พึงสละความสุขส่วนน้อยเสีย”
มนุษย์ทุกคนต่างมุ่งแสวงหาความสุข บ้างก็แสวงหาจาก
การดื่ม การกิน การเที่ยว หรือจากการได้รับของที่ถูกใจ
แต่ความสุขเหล่านั้นล้วนเป็นความสุขชั่วคราว ไม่ยั่งยืน เมื่อได้
รับแล้วก็ยังคงแสวงหาต่อไปอีก ถ้าจะเรียกให้ถูก ต้องเรียกว่า