ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะ ประช
ยอมรับความจริงกันดีกว่า
๓๑๔
ทุกคนที่เกิดมาในสังสารวัฏต่างต้องเผชิญกับมรสุมชีวิต
ที่เหมือนกัน คือ ความแก่ ความเจ็บและความตาย ทุกชีวิตถูก
จำกัดด้วยกาลเวลา แต่ละคนมีเวลาแห่งชีวิตไม่เท่ากัน บ้างตาย
ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา บ้างประสบอุบัติเหตุตายตั้งแต่ยังหนุ่ม
ยังสาว บ้างตายตอนแก่ ซึ่งในยุคนี้ ส่วนใหญ่ไม่เกิน ๗๕ ปี
ก็ต้องจากโลกไป ส่วนผู้ใดมีอายุเกิน ๗๕ ปี ถือว่าอายุยืน ฉะนั้น
เมื่อเรารู้จักโลกและชีวิตไปตามความเป็นจริงเช่นนี้แล้ว จงอย่า
ประมาทในชีวิต ให้เร่งสร้างบารมีอย่างเต็มที่ เราจะได้ก้าวไปสู่
ความไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บและไม่ตายอีกต่อไป
มีพุทธศาสนสุภาษิตใน มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ ว่า
“อาสวะเหล่าใดอันระคนด้วยความเศร้าหมอง นำมา
ซึ่งภพใหม่ เป็นไปด้วยความทุรนทุรายมีทุกข์เป็นผล เป็นที่
ตั้งชาติ ชรา มรณะต่อไป ที่ใครๆ ยังละไม่ได้แล้ว เรากล่าว
ว่าผู้นั้นเป็นคนหลง ดูก่อนอัคคิเวสสนะ บุคคลจะชื่อว่าเป็น
คนหลง ก็เพราะยังละกิเลสอาสวะทั้งหลายไม่ได้”
เดินหลงทางทําให้เสียเวลา แต่ยังมีโอกาสหาทางออกได้
ส่วนความหลงที่เกิดจากโมหะเข้าครอบงำาจิตใจ เป็นอันตราย
อย่างใหญ่หลวงที่ยากแก่การแก้ไข เพราะคนหลงจะไม่รู้ตัวเอง
ว่าหลง เหมือนคนเมาเหล้า ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเมา ทำอะไรก็