ข้อความต้นฉบับในหน้า
Boประช
ละตัณหาได้ไม่ต้องเกิดอีก
๒๒๔
พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้บวชเป็นภิกษุ ด้วยวิธีเอหิภิกขุ
อุปสัมปทา โดยพระพุทธองค์เป็นผู้ประทานการอุปสมบทเอง
เมื่อท่านได้อุปสมบทแล้ว จึงทูลลาพระบรมศาสดากลับไปแจ้ง
ข่าวแก่อาจารย์ ได้แสดงการแก้ปัญหาของพระบรมศาสดาให้
แก่ลุง ครั้นลุงได้ฟังการกล่าวแก้ปัญหาจบ ก็ได้บรรลุเป็นอริย
บุคคลในขั้นพระอนาคามิผล
ส่วนหลานชายซึ่งบวชแล้ว ภายหลังได้สดับโอวาท
ที่พระบรมศาสดาตรัสสั่งสอน ก็ได้บรรลุพระอรหัตผล เป็นพระ
อรหันต์ผู้หมดกิเลส มีความงดงามในพระธรรมวินัย และท่าน
ดำารงอายุสังขารอยู่โดยกาลสมควร ในวาระสุดท้ายของชีวิต
ก็ปรินิพพาน เข้าสู่อายตนนิพพานแดนเกษม
เพราะฉะนั้น ถ้าไม่อยากเกิด ไม่อยากแก่ ไม่อยากตาย
ก็ต้องเข้านิพพานไป พระพุทธองค์ทรงสอนให้ละตัณหา ความ
ทะยานอยากทั้งหลายให้หมดสิ้นไป ทั้งความอยากในกามภพ
ในรูปภพ ในอรูปภพ ถ้าหมดตัณหาก็หมดสิ้นอาสวะ จะมี
นิพพานเป็นที่ไป แต่เมื่อเรายังไปนิพพานไม่ได้ ก็ต้องสั่งสมบุญ
ให้มากๆ เข้าไว้ สักวันหนึ่งเมื่อบุญบารมีเต็มเปี่ยมก็ไปได้เอง
เพราะฉะนั้น ทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ควรให้เป็นทางมา
แห่งบุญของเรา แม้ยามหลับก็ต้องให้บุญไหลผ่านมาสั่งสมในใจเรา