ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชา
ธรรมรักษาผู้ประพฤติธรรม
៤០៨
จากทิศทางไหน ก็ไม่สามารถจะเผากองไม้สดนั้นให้ไหม้ได้
พระอุปัชฌาย์จึงเข้าฌานสมาบัติ อธิษฐานให้แผ่นดินแยกออก
จากกัน แล้วนำไฟจากอเวจีมหานรกมาเพียงเล็กน้อย แค่เท่า
แสงหิ่งห้อย มาใส่ที่กองไม้นั้น เพียงชั่วพริบตา กองไม้สดนั้น
ก็มอดไหม้หมด เหมือนจุดไฟเผาใบไม้แห้งฉะนั้น เมื่อพระ
อุปัชฌาย์แสดงความร้อนของไฟในนรกให้ท่านเห็นแล้วจึงบอกว่า
ถ้าหากท่านสึกออกไป วิบากกรรมที่เคยทำปาณาติบาตมาตลอด
ชีวิต จะทำให้ท่านต้องไปหมกไหม้ในนรกอเวจีที่ร้อนแรงขนาดนี้
ท่านมิลกะฟังแล้วก็เกิดความสลดสังเวชใจ กลัวภัยในนรก
จึงเลิกล้มความตั้งใจที่จะสึก แล้วหันมาบำเพ็ญสมณธรรม
อย่างเต็มที่
พอใจของท่านปล่อยวางหมด ไม่นึกถึงบาปอกุศลกรรม
ต่างๆ ที่เป็นอดีต ไม่ว่าจะมีภาพอะไรเกิดขึ้นมาหลอกหลอน
ก็ไม่สนใจ ไม่ไปยึดมั่นถือมั่น ท่านถือเสียว่า เมื่อพลาดพลั้งไปแล้ว
ก็จะตั้งต้นใหม่ ตั้งแต่นี้ต่อไปจะทำแต่ความดี ท่านตั้งใจปฏิบัติ
ธรรมด้วยความเพียรที่ต่อเนื่อง เมื่อไรที่เกิดความง่วงเหงา
หาวนอน ท่านจะแก้ง่วงด้วยการวางฟางที่ชุ่มน้ำไว้บนศีรษะ
หรือนั่งหย่อนเท้าทั้งสองลงไปในแอ่งน้ำ ท่านเพียรพยายามอยู่
อย่างนี้ด้วยความอดทนอย่างยิ่ง
ในที่สุดท่านก็สมหวัง ใจหยุดถูกส่วนที่ศูนย์กลางกายฐาน