ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
ผู้มีจิตมั่นคง
๓๐๗
ชาวเมืองเวฬุกัณฏกะ ลุกขึ้นในเวลาใกล้รุ่ง นั่งสมาธิภาวนาตาม
ปกติ อยู่บนปราสาทชั้น ๗ ให้เวลาล่วงไปด้วยการเข้าสมาบัติ
ดื่มค่าธรรมปีติซึ่งเกิดจากการทำใจหยุดนิ่ง เพราะนางได้บรรลุ
ธรรมเป็นพระอนาคามีบุคคล ครั้นออกจากสมาบัติแล้ว ก็เริ่ม
สวดปารายนสูตร เป็นทำนองสรภัญญะ ประมาณ ๒๕๐ คาถา
ในขณะนั้น ท้าวเวสสวัณมหาราชเสด็จผ่านมาพอดี ได้
สดับนันทมารดาสวดปารายนสูตรทำนองสรภัญญะ จึงหยุดฟัง
ด้วยความซาบซึ้ง ในรสพระธรรมจนจบ แล้วทรงอนุโมทนาว่า
“สาธุน้องหญิง พระธรรมเทศนาของพระบรมศาสดา ท่านรับ
มาดีแล้ว เราไม่เห็นอะไรที่จะต่างกัน ระหว่างวันที่พระสัมมา
สัมพุทธเจ้าประทับที่ปาสาณกเจดีย์ ตรัสแก่ปารายนิกพราหมณ์
๑๖ ท่าน และพระสูตรที่น้องหญิงกล่าวในวันนี้ เป็นเสมือนกับ
พระตารัสที่พระศาสดาตรัสแล้ว”
นันทมารดาอุบาสิกา เมื่อเห็นผู้มีอานุภาพมายืนเปล่ง
รัศมีกายอยู่ตรงหน้าต่าง ก็ไม่ได้หวาดกลัว หรืออัศจรรย์ใจอะไร
เลย ใจของท่านเป็นปกติราวกับผู้นิรทุกข์ ได้ถามว่า “ดูก่อน
ท่านผู้มีพักตร์อันเจริญ ท่านมีรัศมีกายสว่างไสวประดุจดาว
ประกายพฤกษ์ ท่านเป็นใครหนอ เป็นนาค ครุฑ เทวดา หรือว่า
เป็นพรหม” เมื่อนางทราบว่า เป็นท้าวเวสสุวัณ ก็กล่าวต้อนรับ