ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
ความโศกสิ้นสุดเมื่อจิตหลุดพ้น
๓๕๑
แล้ว จึงออกบวชเป็นบรรพชิต และบำเพ็ญเพียรตามคําสอน
ของพระบรมศาสดา ได้ทำให้แจ้งแล้วซึ่งบทธรรมอันรุ่งเรืองสุข
เกษมสําราญ
ดิฉันได้ถอนความเศร้าโศกอันมีพระอรหัตผลเป็นที่สุด
ได้หลุดพ้นแล้วจากทุกข์ เพราะดิฉันกำหนดรู้อุปาทานขันธ์ ๕
คลายความยึดมั่นถือมั่นในรูป เวทนา สัญญา สังขารและวิญญาณ
อันเป็นที่ตั้งและเหตุเกิดแห่งความเศร้าโศกทั้งหลายได้เด็ดขาด
แล้ว”
จากเรื่องนี้เราจะเห็นได้ว่า ผู้ใดไม่มีสิ่งอันเป็นที่รัก ผู้นั้น
ก็ไม่มีความทุกข์ เพราะยิ่งมีสิ่งอันเป็นที่รักมากก็ยิ่งทุกข์มาก
หมดรักก็หมดทุกข์ ความทุกข์ทั้งหลายจะสิ้นสุด เมื่อใจหยุดนิ่งที่
ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ อย่างสมบูรณ์ ดังเช่นพระอรหันตเถรีผู้
ทําพระนิพพานให้แจ้งแล้ว ขณะที่ท่านเอาใจจรดอยู่กลางกาย
ดื่มดาอยู่ในอมตรสอันยอดเยี่ยม คือ พระนิพพาน ความรัก
ความโศกก็เข้าไปรบกวนท่านไม่ได้ ท่านตัดความรักใคร่ห่วงใย
ได้เด็ดขาด ใจของท่านจึงมีแต่ความสุขเกษม ชุ่มชื่น เบิกบาน
ปราศจากความทุกข์ความโศกเศร้าเสียใจ
พวกเราเองแม้ยังไม่สามารถตัดความรักความห่วงใยใน
คนสัตว์สิ่งของได้อย่างเด็ดขาด ก็ควรฝึกหัดปลดปล่อยวางไว้บ้าง