ข้อความต้นฉบับในหน้า
Boประช
ความโศก สิ้นสุดเมื่อจิตหลุดพ้น
៣៨៨
พลัดพรากจากของรักของชอบใจด้วยกันหมดทั้งสิ้น” เพราะ
เราอยู่บนโลกใบนี้ที่มีโลกธรรมเป็นพื้นฐาน อีกทั้งมีเวลาอยู่
อย่างจำกัด เมื่อหมดเวลาแล้ว เราย่อมต้องละทิ้งทุกสิ่ง
ทุกอย่างไป แม้กระทั่งร่างกายของเราเอง ฉะนั้น หากปล่อย
วางได้เมื่อไร ใจก็เบาสบาย จะได้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน
เหมือนดังเรื่องที่หลวงพ่อจะได้นํามาเล่าในวันนี้
*เรื่องมีอยู่ว่า พระวาสิฏฐีเถรีเป็นผู้มีชีวิตที่ผันผวนปรวน
แปรอย่างน่าสงสาร เพราะมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและ
รุนแรงในชีวิต จนไม่มีใครสามารถทำนายชีวิตของท่านได้ว่า
ชีวิตในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรต่อไป พระเถรีได้เคยบ่าเพ็ญ
บารมีที่เป็นอุปนิสัยแห่งมรรคผลนิพพานมาหลายชาติ ได้เคย
ทำบุญกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหลายพระองค์ ได้ท่องเที่ยว
เวียนตายเวียนเกิด เป็นเทวดาและมนุษย์มายาวนานเป็นแสนกัป
ครั้นมาถึงในสมัยพุทธกาลนี้ ท่านได้เกิดในตระกูลฐานะ
ดีตระกูลหนึ่งในเมืองเวสาลี มีชื่อว่า วาสิฏฐี เมื่อเติบโตเป็นสาว
มารดาบิดาได้ยกให้เป็นภรรยาของกุลบุตรผู้หนึ่ง ซึ่งมีฐานะ
เสมอกัน หลังจากแต่งงานแล้ว ทั้งสองอยู่ร่วมกันอย่างผาสุก
*มก. วาสิฏฐีเถรีคาถา เล่ม ๕๔ หน้า ๒๑๑