ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
จิตที่ไม่หวั่นไหว
២៩៩
เผือกทั้งสองก็ทรงโปรดปราน ให้นำไปเลี้ยงไว้ในกรงทอง ให้กิน
ข้าวตอกคลุกกับน้ำผึ้งและเอาใจใส่ดูแลอย่างดี
ต่อมาไม่นาน พรานป่าอีกคนหนึ่งได้นำลิงสีดำตัวใหญ่ ชื่อ
กาฬพาหุ มาถวายพระราชาอีก พระองค์ทรงโปรดมาก จึงทรง
เอาใจใส่ ดูแลแต่กาฬพาหุตัวเดียว ลาภสักการะของลิงเผือก
ทั้งสอง ก็ได้ลดน้อยลงไป แต่ถึงแม้จะเสื่อมลาภสักการะ
พระโพธิสัตว์ก็ยังมีใจเป็นปกติ ไม่ได้เสียใจหรือเสียดายอะไรเลย
ส่วนลิงน้องชายทนไม่ได้ คิดว่า “เดี๋ยวนี้ ใครๆ ก็เอาใจใส่แต่
กาฬพาหุ" จึงพูดกับพี่ชายว่า “เมื่อก่อน ราชสกุลนี้ได้ให้ของกิน
อย่างดีแก่เราทั้งสอง แต่บัดนี้ ไม่ได้ให้แล้ว พวกเขาน่าเอาไปให้
แต่ลิงกาฬพาหุเท่านั้น เมื่อเราไม่ได้ลาภสักการะ ไม่ได้รับการ
ดูแลเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เราจะอยู่ที่นี่กันไปทำไม กลับไปอยู่ป่า
กันเถิด”
พระโพธิสัตว์จึงบอกกับน้องว่า “น้องเอ๋ย ธรรมในหมู่
มนุษย์นี้ คือ ลาภ เสื่อมลาภ ยศ เสื่อมยศ นินทา สรรเสริญ
สุขและทุกข์ ทั้งหมดนี้เป็นของไม่เที่ยง มีแล้วก็ต้องเปลี่ยนแปลง
เป็นเรื่องธรรมดาของโลก เจ้าอย่าได้เสียใจไปเลย” แต่ลิงน้องชาย
แม้จะได้ฟังอย่างนั้น ก็ยังไม่สามารถลดความอิจฉาริษยา ใน
ลาภสักการะของลิงกาฬพาหุได้ จึงพูดกับพี่ชายว่า “พี่ราธะ พี่