ข้อความต้นฉบับในหน้า
Boประช
ต่างวิธีการแต่เป้าหมายเดียวกัน
บุคคลเหล่านั้นแล ย่อมสงสัยในธรรมทั้งปวง เหมือน
พระราชโอรส ๔ พระองค์ ทรงสงสัยในต้นทองกวาวฉะนั้น”
ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น มีความละเอียด
ลุ่มลึกไปตามลำดับ จากง่ายไปหายาก จากหยาบไปหาละเอียด
เป็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน ผู้ที่ได้มาศึกษาแล้ว ย่อมทำให้เกิด
ดวงปัญญา อันจะนำพาไปสู่การปฏิบัติ เพื่อความหลุดพ้นจาก
ทุกข์ทั้งมวล ซึ่งปัญญาในทางพระพุทธศาสนานั้น แบ่งออกเป็น
๓ ระดับด้วยกัน คือ สุตมยปัญญา หรือความรู้จ๋า เป็นความรู้ที่
เกิดจากการได้ยินได้ฟังมา ซึ่งถือว่าเป็นความรู้ระดับพื้นฐาน
เบื้องต้น ความรู้ระดับกลาง เรียกว่า จินตมยปัญญา หรือความ
รู้ที่เกิดจากการคิด คือ ความรู้ที่เกิดจากการไตร่ตรอง พิจารณา
หาเหตุหาผล มีการทดลอง เพื่อให้เกิดผลการทดลอง ทำนอง
เดียวกับพวกตรรกวิทยาที่ตั้งสมมุติฐานกัน
สำหรับความรู้ประการสุดท้าย เรียกว่า ภาวนามยปัญญา
หรือความรู้แจ้ง เป็นความรู้ที่เกิดขึ้นจากภายใน อย่างที่พระ
สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ หรืออย่างที่พระอรหันต์ทั้งหลายได้รู้
เป็นความรู้ที่ถูกต้องเที่ยงแท้แน่นอน เพราะเป็นความรู้ที่ไม่ได้
เกิดจากการฟัง การคิด แต่เป็นความรู้ที่เกิดจากการรู้แจ้งเห็นจริง
เห็นสรรพสิ่งไปตามความเป็นจริง เปรียบเสมือนแม่น้ำลำคลอง