ข้อความต้นฉบับในหน้า
Boประช
ความโศก สิ้นสุดเมื่อจิตหลุดพ้น
๓๕๐
โอสถชั้นยอดแล้ว นางเกิดความสลดสังเวชใจ เห็นสัจธรรม
ของชีวิตในสังสารวัฏว่า เต็มไปด้วยความทุกข์ ทำให้เกิดความ
เบื่อหน่ายในการครองเรือน จึงทูลขอบรรพชาต่อพระบรมศาสดา
เมื่อนางได้รับอนุญาตแล้ว ก็ออกบรรพชาในสำนักภิกษุณี
หลังจากบวชแล้ว บารมีธรรมที่สั่งสมมาจนเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ก็
ปรากฏผล พระเถรีได้ท่ากรณียกิจ เริ่มเจริญสมาธิบำเพ็ญเพียร
ภาวนา ทําใจหยุดใจนิ่งดิ่งเข้ากลางของกลางเรื่อยไป ไม่นานก็
บรรลุพระอรหัตผลพร้อมด้วยปฏิสัมภิทาญาณ ๔
หลังจากที่พระวาสิฏฐีเถรีบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์แล้ว
จึงได้กล่าวเถรีคาถาเหล่านี้ด้วยความเบิกบานใจว่า “ดิฉันถูก
ความโศกเศร้าถึงบุตรบีบคั้น มีจิตฟุ้งซ่าน เปลือยกายสยายผม
เที่ยวชมชานร้องไห้ไปตามสถานที่ต่างๆ เดินโซซัดโซเซไปตาม
ถนน กองขยะ ในป่าช้า ในตรอกน้อยตรอกใหญ่ อดๆ อยากๆ
อยู่ถึง ๓ ปี
พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงฝึกบุคคลที่ไม่มีใครเสมอเหมือน
ตรัสรู้ด้วยพระองค์เองโดยชอบ หาภัยจากที่ไหนมิได้ กำลัง
เสด็จไปสู่เมืองมิถิลา ดิฉันกลับได้สติแล้ว เข้าไปถวายบังคม
พระองค์ พระบรมศาสดาพระองค์นั้นได้ทรงแสดงธรรมโปรด
ดิฉันด้วยพระมหากรุณา เมื่อได้รับรสแห่งอมตธรรมจากพระองค์