ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
เวลาและโอกาสที่พลาดไม่ได้
๔๔๑
ทางตั้ง ๑๒๐ โยชน์ ให้สงบระงับลงเสียก่อน วาระที่ ๓ พาหิยะ
จึงทูลขออีก พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงประทับยืนในระหว่างถนน
นั่นเอง ตรัสแสดงธรรมว่า “พาหิยะ เมื่อเธอเห็นจงสักแต่ว่าเห็น
เมื่อฟังจงสักแต่ว่าฟัง เมื่อได้ยินจงสักแต่ว่าได้ยิน เมื่อรู้จงสัก
แต่ว่ารู้” เมื่อจบพระคาถาเพียงเท่านี้ ท่านพาหิยะได้บรรลุ
อรหัตตผลทันที แล้วขอบวช เนื่องจากท่านไม่เคยถวายผ้า
และเครื่องบริขารให้ใครเลย จึงไม่สามารถบวชด้วยเอหิภิกขุ-
อุปสัมปทาได้
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสให้ท่านไปแสวงหาเครื่องบริขาร
มาก่อน ขณะที่ท่านกำลังแสวงหาอยู่นั้น ได้ถูกโคแม่ลูกอ่อน
ขวิดตาย ภิกษุทั้งหลายจึงถามถึงคติของท่านพาหิยทารุจีริยะ
พระศาสดาได้ตรัสว่า ท่านได้ปรินิพพานแล้ว ภิกษุสงฆ์เกิด
ความสงสัยในเรื่องการบรรลุอรหัตผลของท่าน จึงกราบทูลว่า
“พาหิยะฟังธรรมแค่นิดเดียว ได้บรรลุธรรมเพราะเหตุใด
พระเจ้าข้า” พระศาสดาจึงตรัสพระคาถาว่า “ถ้าคาถาแม้ตั้งพัน
ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ จะมีประโยชน์อะไร บุคคลได้ฟัง
คาถาใดแล้วสามารถสงบระงับได้ คาถานั้นแม้บทเดียว
ประเสริฐกว่า” แล้วพระพุทธองค์ทรงตั้งพาหิยะไว้ในตำแหน่ง
สาวกผู้เลิศ ทางด้านตรัสรู้ได้เร็ว
เราจะเห็นได้ว่าชีวิตของคนเรานั้นสั้นนัก เหมือนหยาด