ข้อความต้นฉบับในหน้า
Boประช
ความโศกสิ้นสุดเมื่อ
นสุดเมื่อจิตหลุดพ้น
៣៨៦
การเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทาง คือ อายตนนิพพาน
เป็นสิ่งที่ต้องอาศัยกำลังบุญมากๆ บุญน้อยไปไม่ถึง ต้องมีกำลัง
บุญเต็มเปี่ยมจึงจะไปถึงได้ บุญจะเต็มเปี่ยมได้เร็ว ย่อมขึ้นอยู่
กับการทำบุญถูกอู่แห่งทะเลบุญ ถูกทักขิไณยบุคคล และต้องทํา
บ่อยๆ ทําซ้ำแล้วซ้ำอีก ทำทั้งทาน ศีล ภาวนา ทำไปจนหมด
อายุขัย แม้ละโลกแล้วไปสู่สุคติภพ ยังต้องไปทํางานละเอียด
กันต่อ และเมื่อถึงเวลาก็ลงมาเกิดสร้างบารมีอีก เราจะสร้าง
บารมีกันไปอย่างนี้อีกนับภพนับชาติไม่ถ้วน กระทั่งบารมีเต็ม
เปี่ยมบริบูรณ์ เราจึงจะหลุดพ้นจากการบังคับบัญชาของพญามาร
เหมือนลูกไก่หลุดออกจากกระเปาะฟองไข่ จะเป็นอิสระจาก
อาสวกิเลส และจากอวิชชาอย่างสมบูรณ์ เช่นนี้จึงจะสามารถ
ไปถึงที่สุดแห่งธรรมกันได้
มีวาระพระบาลีใน ขุททกนิกาย อุทานคาถา ว่า
“ความโศก ความร่ำไร ความทุกข์อันมากมายนี้มีอยู่
ในโลก ก็เพราะอาศัยสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก เมื่อไม่มี
สัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก ความโศก ความร่ำไร ความ
ทุกข์เหล่านี้ย่อมไม่มี
ผู้ใดไม่มีสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รักในโลก ผู้นั้น
ย่อมเป็นผู้มีความสุขปราศจากความเศร้าโศก เพราะเหตุนั้น