ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาชน
โทษของการวางเพลิง
๕๗
โจรเจ้าโทสะผูกอาฆาตพยาบาท ได้เผานาของเศรษฐี
ถึง ๗ ครั้ง จากนั้นก็แอบเข้าไปในคอกโค ติดเท้าโคของเศรษฐี
ถึง ๗ ครั้ง แล้วยังลอบวางเพลิงเผาบ้านของท่านเศรษฐีอีก ๗
หน ถึงกระนั้นก็ยังไม่หายแค้น จึงไปตีสนิทกับคนใช้ของเศรษฐี
ถามถึงสิ่งอันเป็นที่รักของเศรษฐีว่า เศรษฐีรักสิ่งใดมากเป็นพิเศษ
เมื่อสืบทราบมาว่า สิ่งอันเป็นที่รักยิ่งของเศรษฐี คือพระคันธกุฎี
จึงคิดจะเผาพระคันธกุฎีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้หายแค้น
เช้าวันหนึ่ง ขณะที่พระบรมศาสดาเสด็จออกบิณฑบาตนั้น
โจรแอบเข้าไปทําลายเครื่องอัฏฐบริขาร พร้อมทั้งจุดไฟเผา
พระคันธกุฎีโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น เมื่อเศรษฐีทราบข่าวว่า
พระคันธกุฎีถูกไฟไหม้ จึงเดินมาสำรวจดูที่เกิดเหตุ ท่านไม่ได้
มีความรู้สึกเสียใจเลยแม้แต่น้อย กลับมีความปลื้มปีติยินดี
หัวเราะร่าเริง จนทำให้มหาชนที่อยู่ในเหตุการณ์อดสงสัยไม่ได้
ว่า เหตุใดท่านเศรษฐีจึงดีใจ แทนที่จะเศร้าโศกเสียใจที่เห็น
พระคันธกุฎีถูกไฟไหม้
เศรษฐีจึงกล่าวด้วยอาการยิ้มแย้มว่า “พ่อแม่พี่น้อง
ทั้งหลาย ข้าพเจ้าสละทรัพย์มากมายเพื่อสร้างบุญบารมี ได้
ฝากฝังทรัพย์ไว้ดีแล้วในพระศาสนา เป็นผู้ไม่อิ่มในบุญ แม้แต่ไฟ
ก็ไม่สามารถทำลายทรัพย์ คือบุญบารมีนี้ได้ ข้าพเจ้าจึงมีใจ