ข้อความต้นฉบับในหน้า
Dsuem ประชาช
โทษของการล่าสัตว์
๓๓๕
แต่ก็ไม่กระทำที่พึ่งแก่ตนเอง
แม้ข้าวและน้ำจะมีมากมาย
แต่ก็ไม่แจกจ่ายให้ทาน และไม่ได้ให้อะไรๆ แก่บรรพชิตผู้
ปฏิบัติชอบ เปรตตนหนึ่งบอกว่า ถ้าจุติจากเปรตนี้แล้วจักไป
เกิดในตระกูลอันต่ำาช้าเลวทราม คือ ตระกูลนายพราน ตระกูล
คนจัณฑาล ตระกูลคนกําพร้า นี้เป็นคติของคนตระหนี่
ส่วนทายกผู้ได้ทํากุศลไว้ในชาติก่อน เป็นผู้ปราศจากความ
ตระหนี่ ย่อมทำสวรรค์ให้บริบูรณ์ และย่อมทำสวนนันทวันให้
สว่างไสว รื่นรมย์อยู่ทั้งกลางวันและกลางคืนในเวชยันตปราสาท
ครั้นจุติจากเทวโลกแล้ว ย่อมเกิดในตระกูลสูง มีโภคะมากคือใน
ตระกูลของเศรษฐี มีปราสาทราชมณเฑียร มีบัลลังก์ลาดด้วย
ผ้าเนื้อดี มีเหล่าบุรุษสตรีคอยรับใช้ใกล้ชิด ในเวลาเป็นทารกก็
ทัดทรงดอกไม้ ตบแต่งร่างกาย มีหมู่ญาติ พี่เลี้ยง นางนมผลัด
กันดูแล ได้รับการบำารุงให้ได้รับความสุขทั้งเช้าและเย็น
เมื่อพวกเปรตได้พูดถึงบุพกรรมของตนเองให้มหาชน
ได้ยินกันทั่วแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงแสดงธรรมเพื่อให้
มหาชนรักในการทําความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ทำให้หมู่สัตว์ ๘๔,000
ได้บรรลุธรรมาภิสมัย เป็นผู้เลื่อมใสในพระรัตนตรัยอย่างไม่
คลอนแคลน เป็นผู้ไม่ประมาท ได้พร้อมใจกันถวายมหาสังฆทาน
แด่หมู่สงฆ์ มีพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเป็นประธาน ตลอด ๗ วัน
ทำให้มหาชนได้สุขสมบัติ ไปเสวยทิพยสมบัติในเทวโลกกัน