ข้อความต้นฉบับในหน้า
Bsu: sill
โทษภัยจากคำส่อเสียด
๑๕๔
ดูก่อนนายสารถี นรชนเหล่าใด ไม่เชื่อถือถ้อยคำ
ของคนส่อเสียด ผู้มุ่งทำลายความสนิทสนม นรชนเหล่านั้น
ย่อมได้ประสบความสุข เหมือนคนไปสวรรค์ฉะนั้น”
การอยู่ร่วมกันในสังคม จําเป็นต้องมีความจริงใจ มีความ
ไว้วางใจเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ความสงบสุขถึงจะบังเกิดขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นสังคมเล็กๆ หรือสังคมหมู่ใหญ่ก็เช่นเดียวกัน
เมื่อเข้ามาอยู่รวมกันแล้ว หากมีเหตุการณ์ที่ไม่สงบเรียบร้อย
หรือเกิดกระแสของความสงสัยคลางแคลงเกิดขึ้น ก็ควรจะ
เป็นคนที่หนักแน่น ไม่หูเบา ให้เชื่อเหตุเชื่อผล ใช้สติปัญญา
พินิจพิจารณาใคร่ครวญให้ดีเสียก่อน จึงปักใจเชื่อ เราต้องหัด
มองคนให้เป็น แยกแยะให้ออกด้วยว่า บุคคลที่เรากำลังคบหา
สมาคมด้วยนั้นเป็นคนประเภทใด เป็นศัตรูในคราบมิตร ที่คิดจะ
เข้ามาทําลายความสงบร่มเย็นของหมู่คณะหรือเปล่า
บุคคลที่เป็นอันตรายต่อหมู่คณะนั้น เป็นอันตรายต่อทุกๆ
สังคม ก็คือ คนส่อเสียด ชอบความแตกร้าว ยุแยงตะแคงรั่ว
บุคคลประเภทนี้ไม่เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย
เพราะผู้ที่มีอุปนิสัยอย่างนี้มีแต่จะนำความหายนะมาสู่สังคมนั้นๆ
หากรู้ว่าใครเป็นผู้มีอัธยาศัยมักพูดส่อเสียด ชอบความแตกร้าว
ของคนอื่น ก็ให้รีบออกห่างเสีย หรือถ้าจำเป็นต้องอยู่ใกล้
ไม่สามารถออกห่างได้ ก็ให้คบไว้เหมือนนั่งผิงไฟในหน้าหนาว