ข้อความต้นฉบับในหน้า
Bsual
โทษของการพูดไม่ถูกกาล
១៨៦
ประพาสอุทยาน จะมีราชอาสน์คอยรองรับพระองค์ท่าน ถือกัน
ว่าเป็นศิลามงคล เบื้องบนแผ่นศิลานั้นมีต้นมะม่วงสูงใหญ่
ตระหง่านอยู่ต้นหนึ่ง นกดุเหว่าวางไข่ตนเองไว้ที่รังของแม่กา
รังหนึ่งที่ต้นมะม่วงนั้น แล้วบินจากไป แม่กาประคบประหงมไข่
นั่นอย่างดี ด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นลูกของตนเอง ทุกๆ
วันหลังจากที่ฟักไข่แล้ว แม่กาตัวนั้นจะนําอาหารมาด้วยจะงอย
ปาก เลี้ยงดูลูกนกอย่างดี ไม่เคยให้อดอยาก เมื่อลูกนกดุเหว่า
เริ่มโต ขนปีกยังไม่ทันที่จะงอก ก็ส่งเสียงร้องเป็นเสียงนกดุเหว่า
แถมยังส่งเสียงร้องออกมาในเวลาที่ไม่ควรจะร้อง แม่กาตัวนั้น
เมื่อได้ยินเสียงของลูกนก ก็คิดว่า ลูกนกตัวนี้เราอุตส่าห์เลี้ยง
มาตั้งนาน บัดนี้กลับส่งเสียงร้องเป็นอย่างอื่นแล้ว เมื่อมันโต
ขึ้นจะทําอย่างไร คิดแล้วจึงเอาจะงอยปากที่เคยคาบอาหารป้อน
ด้วยความเข้าใจผิด จิกตีจนลูกนกดุเหว่าตายและตกลงมาจาก
รัง บังเอิญอีกเช่นกัน ลูกนกตัวนั้นตกลงในที่ใกล้พระบาทของ
พระราชา
พระราชาทอดพระเนตรเห็นอย่างนั้น จึงตรัสถาม
พระโพธิสัตว์ว่า “เกิดอะไรขึ้น” ท่านมหาอำมาตย์จึงได้โอกาส
ประจวบเหมาะ เพราะปรารถนาที่จะใช้อุบายตักเตือนพระราชา
อยู่พอดี จึงฉุกคิดขึ้นทันทีว่า เราอุตส่าห์แสวงหาอุบายมากมาย
เพื่อที่จะสอนพระราชาพระองค์นี้ให้ตรัสน้อยๆ ลงบ้าง ตรัสแต่