ข้อความต้นฉบับในหน้า
วิบากกรรมของนักล่าสัตว์
៤៩៦
เมื่อพระนารทเถระไปพบเปรตตนนี้เข้า จึงถามว่า “ท่าน
รื่นรมย์อยู่ในเรือนยอดและปราสาทบนบัลลังก์อันปูลาดด้วย
ผ้าขนสัตว์ มีเครื่องขับร้องประโคมดนตรีที่บุคคลคอยประโคม
ให้ฟัง ภายหลังเมื่อสิ้นราตรี พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ท่านต้องเสวย
ทุกข์ทรมานแสนสาหัสอยู่ในป่าช้า ท่านทำกรรมชั่วอะไรไว้ด้วย
กาย วาจา ใจ เพราะวิบากแห่งกรรมอะไร ท่านจึงได้เสวยทุกข์
เช่นนี้ ช่วยเล่าให้อาตมาฟังหน่อยเถิด”
เปรตจึงเรียนให้ทราบว่า ในอดีต “กระผมเป็นมาณพ
ชื่อว่า มาควิกะ แม้เป็นลูกของคนมีทรัพย์ แต่ก็รักสนุกด้วยการ
ออกล่าเนื้อตลอดทั้งกลางคืนและกลางวัน อุบาสกคนหนึ่งเป็น
สหายของกระผมอาศัยความเอ็นดูตักเตือนว่าอย่าทำปาณาติบาต
เลย เพราะมันไม่คุ้มกับการที่จะต้องไปเสวยทุกข์ในอบายภูมิ
ถ้าสหายปรารถนาความสุขในโลกหน้า จงงดเว้นจากการฆ่าสัตว์
เสียเถิด แต่ผมก็ไม่เชื่อ เพราะคิดว่าสัตว์เป็นอาหารของมนุษย์
ไม่น่าจะเป็นบาป อุบาสกจึงไปขอร้องพระเถระรูปหนึ่ง
วันหนึ่ง พระคุณเจ้าไปบิณฑบาตในกรุงราชคฤห์ ได้
หยุดยืนที่ประตูบ้านของผม ผมเห็นท่านแล้วเกิดความเลื่อมใส
จึงทําการต้อนรับให้เข้าไปฉันภัตตาหารในบ้านปูลาดอาสนะถวาย
เมื่อพระเถระฉันภัตตาหารเสร็จ ก็ประกาศโทษในปาณาติบาต
และอานิสงส์ในการงดเว้นจากปาณาติบาตแก่กระผม ถึงกระนั้น