ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระอรหันต์ ตุ่ม
៤៥៨
ปั้นแต่งเรื่องไร้สาระต่างๆ ขึ้นมาให้คนเคลิบเคลิ้มตาม เป็นทาง
มาแห่งโมหะความลุ่มหลง ทำให้ใจหมองพร่ามัว แต่ถ้าหากว่า
เอาเรื่องที่เกิดขึ้นจริงมาพูด แม้เรื่องนั้นจะดูเหมือนไม่ใช่อรรถ
ไม่ใช่ธรรม เป็นเรื่องเกี่ยวกับโลก แต่เราเอามาประกอบโดยมี
จุดมุ่งหมายที่จะยกขึ้นเป็นอุปมาเปรียบเทียบ เพื่อการแนะนำ
ธรรมะ ให้ข้อคิดในการดาเนินชีวิตหรือการทํางาน อย่างนี้
ไม่เรียกว่าพูดเพ้อเจ้อ ยิ่งถ้าพูดสอดแทรกเรื่องที่รู้จักกันดี
เป็นที่นิยมของคนทั่วไป เอามาเสริมในการบรรยายเพื่อให้เกิด
ความเข้าใจง่าย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บรรลุมรรคผลนิพพาน
อย่างนี้ยิ่งดี เรียกว่ารู้จักนำมาประยุกต์ใช้ในการพูด มีปฏิภาณดี
ไม่ถือว่าเป็นวาจาเพ้อเจ้อ คือให้ดูที่เจตนาเป็นหลัก
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเกี่ยวกับเรื่องวาจาเพ้อเจ้อ
และแยกแยะให้พระภิกษุได้ศึกษาไว้ในสามัญญผลสูตร โดยตรัส
รวมเป็น ๓๒ กถาด้วยกัน ตั้งแต่พูดในเรื่องของพระราชา เรื่อง
การรบ เรื่องโจร เรื่องการทำมาหากิน เรื่องเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม
เรื่องความสวยความงาม เรื่องยานพาหนะ เรื่องบุรุษสตรี เด็ก
ชายเด็กหญิง เหล่านี้เป็นต้น เพราะเรื่องเหล่านี้เมื่อกล่าวแล้ว
จะเป็นเหตุให้ธรรมเนิ่นช้า เสียเวลา ใจฟุ้งซ่าน เมื่อคิดฟุ้งซ่าน
ก็เจริญสมาธิไม่ได้ เมื่อสมาธิหย่อนก็อยากจะทำอะไรที่แปลกๆ