ข้อความต้นฉบับในหน้า
Bsu: sill
กรรม ของการตัดสินไม่ยุติธรรม
๕๓๐
อย่างแน่นอน แต่ว่าคนส่วนใหญ่นั้น ดีชั่วรู้หมดแต่อดไม่ได้ ทำ
ให้ต้องไปสู่อบายภูมิกันมากมาย เหมือนอย่างเรื่องของอดีต
ผู้พิพากษาผู้ไร้ศีลธรรม ต้องรับกรรมในอบาย เรื่องก็มีอยู่ว่า
*ในสมัยพุทธกาล เมื่อพระเจ้าพิมพิสารได้ฟังธรรมครั้งแรก
ได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน ตั้งแต่นั้นมา พระองค์ทรงทำ
หน้าที่เป็นองค์อัครศาสนูปถัมภ์ ได้ถวายเวฬุวันมหาวิหารไว้
ในพระศาสนา เพื่อจะได้เป็นสถานที่ประทับของพระพุทธองค์
และเป็นสถานที่แสดงธรรมให้กับเหล่าพุทธบริษัททั้งหลาย
ส่วนพระองค์ทรงเข้าจำอุโบสถศีลเดือนละ 5 วัน ชาวเมือง
จำนวนมากรักษาอุโบสถศีลตามพระราชา มีโอกาสได้ฟังธรรม
จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบ่อยๆ ที่ออกบวชตามและบรรลุธรรม
เป็นพระอรหันต์ก็มาก เป็นพระอนาคามี พระสกทาคามีก็มาก
อย่างน้อยก็บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน สมัยนั้นในกรุงราชคฤห์
มีอริยสาวกบังเกิดขึ้นจํานวนมาก
พระเจ้าพิมพิสารตรัสถามอำมาตย์ข้าราชบริพาร ที่มา
ถวายรายงานเรื่องกิจการบ้านเมืองว่า “พวกท่านได้รักษาอุโบสถ
ศีลกันไหม” ส่วนใหญ่จะกราบทูลว่า ได้รักษาอุโบสถศีลเหมือน
พระองค์ แต่มีอยู่คนหนึ่ง เป็นผู้พิพากษาคอยตัดสินคดีความต่างๆ
*มก. เล่ม ๔๙ หน้า ๔๓๓