ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาช
ก า ล กั ญ ช ก า อสูร
๔๑๓
มีใจแช่มชื่นเบิกบาน ได้เสวยผลแห่งวิบากกรรมที่ดีนั้น ที่เป็น
ประโยชน์ทั้งต่อตนและผู้อื่น ควรรีบลงมือกระทำกรรมนั้น”
เรื่องกฎแห่งกรรมนี้ เป็นเรื่องของความจริง ไม่ได้เกี่ยว
กับความเชื่อ หรือการนับถือศาสนาลัทธิใดลัทธิหนึ่ง ไม่ว่าจะ
เชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม กฎนี้ก็ยังคงอยู่เพราะเป็นกฎสากล ที่มี
ผลบังคับครอบคลุมไปถึงสรรพสัตว์ทั่วทั้งภพสาม ถ้าเราทําใจ
ให้เป็นกลางๆ โดยวางความเชื่อไว้บนหิ้ง แล้วเอาความจริงมา
พิสูจน์กัน เราก็จะได้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องสมบูรณ์ว่า
สัตวโลกทั้งหลายล้วนมีวิบาก คือผลที่เกิดจากการกระทําของ
ตนทั้งสิ้น ที่ตนเองกระทำเอาไว้ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ
แล้วต้องมารับวิบากกรรมที่แตกต่างกันออกไป คือกรรมบาง
อย่างเมื่อทำไปแล้วต้องเดือดร้อนใจในภายหลัง อาจให้วิบากใน
มหานรก บางอย่างให้วิบากในอสุรกาย ที่ให้วิบากในเปตวิสัยก็มี
ในกำเนิดสัตว์เดียรัจฉานก็มี ถ้าเป็นกรรมดีก็ให้วิบากในสุคติภูมิ
ในมนุษยโลก ในเทวโลกก็มี ในรูปภพ อรูปภพก็มี นี้เรียกว่า
ความแตกต่างแห่งกรรม
เราจะต้องทําความเข้าใจให้ซาบซึ้งในเรื่องนี้ เพราะเป็น
เรืองหลักที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเพียรพยายามพร่าสอนให้
พุทธบริษัท ตลอดจนชาวโลกและสรรพสัตว์ทั้งหลายได้รู้แจ้ง