ข้อความต้นฉบับในหน้า
วิบากกรรมของนักล่าสัตว์
៤៩៤
แต่นายพรานเลิกไม่ได้ เพราะให้เหตุผลว่ามันเป็นอาชีพ
ไม่สามารถไปหาอาชีพอื่นทำได้ ฝ่ายอุบาสกไม่ลดละความ
พยายามที่จะทำหน้าที่กัลยาณมิตร ได้แนะนำว่า “ถ้าอย่างนั้น
ท่านจงงดเว้นจากปาณาติบาตในตอนกลางคืน ส่วนกลางวัน
ท่านจะไปล่าสัตว์เลี้ยงชีพก็แล้วแต่ท่าน”
นายพรานเห็นว่ารักษาศีลกลางคืนได้ เลยตอบตกลง
เมื่อรับปากแล้ว ตั้งแต่นั้นมาไม่ออกล่าสัตว์เวลากลางคืนอีกเลย
ได้รักษาศีล ๕ ตลอดทั้งคืน ครั้นรุ่งเช้าก็ออกล่าสัตว์ต่อ ทำ
อย่างนี้จนตลอดชีวิต เมื่อละโลกไปแล้ว เนื่องจากทำบุญบนบาป
ก็ไปบังเกิดเป็นเวมานิกเปรตใกล้กรุงราชคฤห์ ตอนกลางวันจะ
เสวยทุกข์ทรมานอย่างใหญ่หลวง คือจะถูกสุนัขฟันเหล็กกัดกิน
กรรมนั้นบันดาลให้มีฝูงสุนัข ตัวใหญ่มาก ตาแดง หน้าตาดุดัน
วิ่งเข้ามาใส่แล้วรุมกัดกินเนื้อตนเองจนตาย จากนั้นก็ฟื้นขึ้นมา
ใหม่ เสวยทุกข์อยู่อย่างนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ส่วนเวลากลางคืน ด้วยบุญกุศลที่ได้สมาทานศีล ๕
ร่างกายจะเปล่งปลั่งสว่างไสว พรั่งพร้อมด้วยเบญจกามคุณทั้ง ๕
เสวยสุขประดุจชาวสวรรค์ พระนารทเถระเห็นแล้วก็สอบถามว่า
ท่านเป็นคนหนุ่มแน่น ห้อมล้อมด้วยเทพบุตรและเทพธิดา
รุ่งเรืองในยามราตรี แต่ต้องมาเสวยทุกข์ในเวลากลางวัน ท่าน
ได้กระทำกรรมอะไรเอาไว้ในชาติก่อน