ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาช
เปรต งูยักษ์และเปรต กาดำ
៣៩៩
พระบรมศาสดาครั้นตรัสบุพกรรมของอหิเปรตนั้นแล้ว
จึงตรัสเล่าบุพกรรมของเปรตกาว่า เปรตตนนี้ในสมัยของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า กัสสปะ ได้เกิดเป็นกาดำ
เนื่องจากว่า สมัยนั้นพระภิกษุสงฆ์ได้รับกิจนิมนต์เข้าไปฉันใน
หมู่บ้าน ในขณะที่เจ้าภาพกำลังฟังธรรมจากภิกษุสงฆ์อยู่นั้น
เจ้ากาตัวนี้ก็ได้เกาะอยู่บนหลังคาบ้านแล้วแอบจ้องมองภัตตาหาร
หวานคาวที่เจ้าภาพจัดเตรียมไว้ถวายพระ ขณะที่เจ้าภาพกำลัง
น้อมนำอาหารเข้าไปถวายพระนั้น เจ้ากาดำเมื่อได้โอกาสโฉบ
ลงมาคาบเอาคำข้าว ๓ คำเต็มปากจากบาตรที่เจ้าภาพท่านหนึ่ง
กำลังถือเอาไว้ กรรมที่แย่งอาหารจากของที่เขาจะนำไปถวาย
สงฆ์ในครั้งนั้น ทําให้ไปเกิดเป็นเปรตกานําตัวใหญ่บนภูเขา-
คิชฌกูฏ เสวยความทุกข์ทรมานนานถึงหนึ่งพุทธันดร
ครั้นทรงนำาเรื่องบุพกรรมของเปรตทั้งสอง ที่พระมหา
โมคคัลลานเถระได้เห็นมาตรัสเล่าให้พระภิกษุสงฆ์ฟังแล้ว
จึงตรัสสอนว่า “ภิกษุทั้งหลาย ชื่อว่าบาปกรรมนั้น เป็นเช่นกับ
น้ำนม น้ำนมที่บุคคลกำลังรีดอยู่ ยังไม่ทันเปลี่ยนแปรไปฉันใด
กรรมที่บุคคลกำลังกระทำ ก็ยังไม่ทันให้ผลฉันนั้น แต่ในกาลใด
กรรมส่งผล ในกาลนั้น ผู้กระทำบาปย่อมประกอบด้วยความ
ทุกข์ทรมาน ที่ไม่มีใครสามารถจะต้านทานได้”