ข้อความต้นฉบับในหน้า
Dsuem ประชาช
วิบากกรรมของการพูดเพ้อเจ้อ
๑๖๕
ด้วยการถวายข้าวยาคูตลอด ๗ วันแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และพระภิกษุสงฆ์ด้วยความปีติเลื่อมใส ต่อมาไม่นานนัก
ลูกชายก็เสียชีวิตลง แล้วไปบังเกิดในท้องของหญิงแพศยา
คนหนึ่ง เมื่อหญิงแพศยารู้ว่าเด็กที่เกิดมาเป็นเด็กผู้ชาย ก็ให้
เขาเอาไปทิ้งที่ป่าช้า แต่เด็กนั้นเป็นผู้มีบุญ จึงไม่ถูกภัยใดๆ รบกวน
ในเวลาใกล้รุ่ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จออกจากมหา
นิโรธสมาบัติ ทรงตรวจดูสัตวโลกด้วยพุทธจักขุ ทอดพระเนตร
เห็นเด็กทารกที่ถูกทอดทิ้งไว้ในป่าช้า จึงเสด็จไปยังป่าช้า
มหาชนได้มาประชุมพร้อมกัน เพราะคิดว่า ที่พระบรมศาสดา
เสด็จมาในที่นี้ เห็นจะมีเหตุอะไรเกิดขึ้นเป็นแน่ จึงตามกันมาดู
พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสกับพุทธบริษัทผู้มาประชุมกัน
ว่า “เด็กคนนี้ไม่มีใครรู้จักหรอก บัดนี้ได้ถูกทอดทิ้งไว้ในป่าช้า
ไร้ที่พึ่งก็จริงอยู่ แต่ถึงอย่างนั้น เด็กคนนี้ก็จักได้รับสมบัติอัน
โอฬารในปัจจุบัน ในอนาคต และในสัมปรายภพ” มหาชนจึง
กราบทูลถามว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ในชาติปางก่อน เด็กนี้
ทำกรรมอะไรไว้พระเจ้าข้า” จากนั้นพระองค์จึงทรงประกาศกรรม
ที่เด็กได้กระทําไว้ และสมบัติที่เด็กจะพึงได้รับต่อไปในอนาคต
เนื่องจากได้ทำการบูชาอย่างมโหฬารแก่พระภิกษุสงฆ์โดยมี
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน แต่ภายหลังจิตของเด็กนั้น
ถูกกิเลสคือความตระหนี่ครอบงำา จึงกล่าววาจาหยาบคาย