ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรร
วิบากกรรม ข อ ง การพูดเพ้อเจ้อ
១៦៨
เพราะประมาทไม่ได้สั่งสมบุญ บุคคลบางพวกในโลกนี้มีกุศล
กรรมทำไว้ดี แต่ภายหลังเป็นผู้เสื่อมจากสมบัติด้วยอำนาจ
แห่งอกุศลที่เกิดขึ้นในภายหลังเป็นปัจจัย บางพวกที่มีบุญน้อย
ในเบื้องต้นจึงเสวยทุกข์ แต่เพราะกลับมีใจเลื่อมใสในภายหลัง
จึงทำให้เป็นผู้รุ่งเรือง เพราะความเป็นผู้มีกุศลจิต จึงรุ่งเรือง
มากด้วยโภคทรัพย์ เพราะเหตุแห่งกุศลจิตนั้น” จากนั้น
พระพุทธองค์จึงตรัสเล่าบุพกรรมของเขา ให้พุทธบริษัทได้
รับฟังกัน
เพราะฉะนั้น การพูดแต่คำที่เป็นวาจาสุภาษิตจะเป็น
เหตุนำเราไปสู่ความสุข แต่การกล่าวคำทุพภาษิตเป็นเหตุนำ
ไปสู่ความทุกข์ ก็จงเลือกเอาเถิดว่าจะเอาแบบไหนกัน คนที่
กล่าวคำหยาบคาย หากภายหลังสำนึกได้กลับตัวกลับใจเสียใหม่
หันมาท้าความดี นี่นับว่าเป็นความฉลาด แต่ถ้ายังไม่รู้สึกตัว
พูดให้ร้ายจนเป็นนิสัย วิบากกรรมก็จะติดตัวไปข้ามภพข้ามชาติ
และจะนําสิ่งร้ายๆ มาสู่ตนเอง ใครทําอย่างไรก็ได้อย่างนั้น ใคร
พูดอย่างไรก็ได้อานิสงส์อย่างนั้น ปลูกถั่วก็ได้ถั่ว ปลูกงาก็ได้งา
ปลูกถั่วจะกลายเป็นงาก็ไม่ได้ การประกอบเหตุเป็นสิ่งสําคัญมาก
ต้องจดจำเอาไว้ให้ดี อย่าลืมว่าการคิด การพูด และการกระทำ
ใดๆ ที่จะไม่มีผลนั้นเป็นไม่มี พึงสังวรระวังกาย วาจา ใจของเรา
ให้ดี ซึ่งการที่จะควบคุมกาย วาจา ใจของเราให้อยู่ในร่องในรอย