ข้อความต้นฉบับในหน้า
Dsuem ประชาช
จุดจบของผู้ก่อเวร
๑๗๓
ในกาลใหนๆ เวรย่อมไม่ระงับด้วยการจองเวร เวรทั้ง
หลายย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
นั่นเป็นธรรมเก่า”
ในโลกปัจจุบันนี้ ที่เกิดกระแสแห่งการแก่งแย่งชิงดีกัน
ในหลายๆ เรื่อง ทำให้เกิดการแข่งขันและขัดแย้งกันไปในตัว
ก่อให้เกิดความวุ่นวายมากมาย เมื่อมีการแข่งขันกัน ถ้าเกิด
ความพ่ายแพ้ในการแข่งขัน ผู้พ่ายแพ้ก็ย่อมจะก่อเวร แก้กันไป
แก้กันมา ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ทำให้การอยู่ร่วมกันมีปัญหา
ขัดแย้งมาทุกยุคทุกสมัย หากว่าต่างฝ่ายต่างถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน
ความวุ่นวายทั้งหลายในโลกนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น หากรู้จักการให้
อภัยกัน มีจิตที่ปรารถนาดีต่อกัน จะมีแต่ความสุขความสบายใจ
ลองสังเกตดูใจของเราก็ได้ หากเรามีจิตใจที่นุ่มนวล
เปี่ยมด้วยอภัยทานแล้ว สภาวะจิตใจของเราจะโปร่งเบาสบาย
ทีเดียว จะไม่รู้สึกว่ามีทุกข์ใจอะไร ความทุกข์ที่คนอื่นมองเห็น
เท่าภูเขา แต่สำหรับเราแล้วเป็นเหมือนเพียงอากาศธาตุ ว่างเปล่า
ไม่มีอะไร เพราะสุขหรือทุกข์นั้นอยู่ที่ใจของเราเองต่างหาก
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอน ไม่ให้เราเป็นทุกข์เพราะ
การไปก่อเวรกับใคร พระองค์ทรงสอนว่า เวรย่อมระงับด้วย
การไม่จองเวร เพราะหากยังมีการจองเวรผูกเวรกันอยู่ ก็จะไม่
สงบสุขด้วยกันทั้งสองฝ่าย ฝ่ายที่ผูกใจเจ็บก็จะทุรนทุราย