ข้อความต้นฉบับในหน้า
B:เอประชาช
เปรต งูยักษ์และเปรต กาดำ
๓๕๖
เสร็จแล้ว ก็ชักชวนกันไปเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ซึ่งมี
พระภิกษุสงฆ์แวดล้อมพระพุทธองค์อยู่จำนวนมาก ครั้นกราบ
นมัสการพระพุทธองค์เสร็จเรียบร้อย พระลักขณเถระจึงถือ
โอกาสถามพระโมคคัลลานะอีกครั้งหนึ่งว่า ระหว่างลงจากเขา
คิชฌกูฏ ทำไมถึงได้ทำการยิ้มแย้มให้ปรากฏ
พระเถระตอบว่า “ผู้มีอายุ ผมเห็นเปรตงูยักษ์ตนหนึ่ง
รูปร่างใหญ่โตมาก จึงได้ทำการยิ้มแย้มให้ปรากฏ เนื่องจาก
อัตภาพของเปรตนั้นไม่เหมือนเปรตตนอื่นๆ ที่กระผมเคยเห็น
มาก่อน ศีรษะของมันเหมือนศีรษะมนุษย์ อัตภาพที่เหลือของเปรต
ตนนี้ เหมือนร่างของงูยักษ์ยาวประมาณ ๒๕ โยชน์ เปลวไฟได้
ตั้งขึ้นจากศีรษะของมันลามไปจนถึงหาง ตั้งขึ้นจากหางถึงศีรษะ
จากนั้นตั้งขึ้นในท่ามกลางลุกลามไปทั่ว ได้ร้องโหยหวนอยู่ใน
อากาศด้วยความทุกข์ทรมาน
นอกจากนี้ พระมหาโมคคัลลานะก็ยังเล่าเรื่องที่เห็น
เปรตอีกตนหนึ่ง มีลักษณะที่พิเศษกว่าเปรตตนอื่น คือเป็นเปรต
กาดำตัวใหญ่ แต่ว่าเป็นกาดำยักษ์ที่กำลังถูกไฟไหม้อยู่ที่ยอด
เขาคิชฌกูฏ ลิ้นของกายาวประมาณ ๕ โยชน์ ศีรษะของกา
ใหญ่มากประมาณ ๙ โยชน์ กายของกาสูงประมาณ ๒๕ โยชน์
เปลวเพลิงใหญ่ได้ลุกท่วมเผากายักษ์ตัวนั้นอยู่ตลอดเวลา