ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชll
กรรมของการตัดสินไม่ยุติธรรม
๕๓๑
ตนเองเป็นคนมีวาจาส่อเสียด
ชอบหลอกลวงคนอื่นและทุจริต
รับสินบนเป็นอาจิณ ครั้นถูกพระราชาตรัสถามก็ตอบว่า “หม่อมฉัน
รักษาอุโบสถศีลเหมือนกันพระเจ้าข้า"
เมื่อผู้พิพากษาออกมานอกท้องพระโรง เพื่อนสนิทจึง
ทักท้วงว่า “ท่านรักษาอุโบสถศีลจริงหรือสหาย” ผู้พิพากษาตอบว่า
“สหายเอ๋ย ฉันกลัวว่าพระราชาจะไม่ทรงปลื้มพระทัย จึงตอบไป
อย่างนั้นแหละ อันที่จริงฉันไม่ได้รักษาอุโบสถศีลหรอก” เพื่อน
ยอดกัลยาณมิตรได้แนะนำว่า “ในเมื่อท่านกราบทูลพระราชา
ว่าได้รักษาอุโบสถศีลแล้ว ก็ควรจะทำตามที่กล่าวไว้ เพราะนี่เหลือ
เวลาอยู่อีกตั้งครึ่งวัน รักษาอุโบสถศีลครึ่งวันก็ได้นะเพื่อน”
ผู้พิพากษาไม่อยากขัดใจเพื่อน และเกรงว่าหากพระราชาทรง
ทราบเรื่องที่ตนเองโกหก ก็อาจจะถูกลงราชอาชญาได้ จึงตก
ปากรับคำ
เมื่อกลับถึงบ้านแล้ว ไม่รับประทานอาหารเที่ยง เพราะ
เลยเวลารับประทานอาหารแล้ว บ้วนปาก อธิษฐานอุโบสถ
เมื่อท้องว่างเพราะไม่ได้รับประทานอาหาร ตกกลางคืนจึงเกิด
ลมภายในท้องเสียดแทงอย่างหนัก เนื่องจากตนเองไม่เคยฝึก
รักษาอุโบสถศีลมาก่อน เมื่อตกดึกคืนนั้น ลมกําเริบจนทนไม่ไหว
แต่ก็ไม่ยอมละเมิดศีล จึงตายในคืนนั้น ครั้นตายลงได้ไปเกิด
เป็นเวมานิกเปรตที่ภูเขาแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากกรุงราชคฤห์