ข้อความต้นฉบับในหน้า
กรรมของคนโกงที่ธรณีสงฆ์
๕๒๒
ภิกษุรูปหนึ่งรู้สึกฉงนสนเท่ห์ในคำตอบนั้น แต่ด้วยความ
หิวข้าวหิวน้ำเป็นกำลัง คิดว่าเปรตพูดเล่น จึงถามย้ำอีกครั้งว่า
“ทำไมพูดอย่างนั้นอุบาสก พวกอาตมาหมดเรี่ยวหมดแรง
จริงๆ นะ ไม่มีแรงจะเดินต่อไปอีกแล้ว ช่วยรีบบอกหนทางให้
กับอาตมาด้วยเถอะ” เปรตก็ยังยืนยันว่า “จริงๆ นะพระคุณเจ้า
พระคุณเจ้าทั้งหลายจงพิจารณาดูรูปร่างของข้าพเจ้าให้ดีสิ
ข้าพเจ้านี้ไม่ใช่คน ข้าพเจ้าเป็นเปรตที่ต้องทนทุกข์ทรมาน
จมอยู่ในหินครึ่งตัว ขยับเขยื้อนไม่ได้ ต้องอดข้าวอดน้ำ ตาก
แดดตากลมอยู่อย่างนี้มาตลอด ๔ พุทธันดร”
เมื่อพระภิกษุสังเกตดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน ต่างขนลุก
เป็นหนาม เพราะผู้ที่เห็นอยู่ข้างหน้านั้นเป็นเปรตจริงๆ จึงถามว่า
“ท่านทำกรรมอะไรไว้ จึงมาเกิดเป็นเปรตน่าเวทนาถึงเพียงนี้”
เปรตเห็นว่าเรื่องราวของตัวจะเป็นประโยชน์ ซึ่งหากอนุชน
รุ่นหลังได้ฟังสืบต่อกันไปแล้ว จะได้เป็นอุทาหรณ์สอนใจ และ
ยึดเอาเป็นทิฏฐานุคติ ไม่ให้เอาเป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป จึงได้
เล่าให้ภิกษุสงฆ์ฟังว่า
“ในสมัยศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์แรกในภัทรกัปนี้
คือพระกกุสันโธพุทธเจ้า ข้าพเจ้าเป็นชาวนา และเขตนาของ
ข้าพเจ้าอยู่ติดกับเขตนาที่เขาอุทิศให้เป็นของสงฆ์ ข้าพเจ้าเอง