ข้อความต้นฉบับในหน้า
Bsual
โทษของการฉ้อราษฎร์บังหลวง
៩២
ฝ่ายปุโรหิตกลัวเสียหน้า จึงพูดแก้ตัวว่า “จะกลับไปอธิษฐาน
อุโบสถศีลที่บ้านร่วมกับครอบครัว”
เมื่อปุโรหิตกลับถึงบ้านแล้ว
ได้ทำตามคำสัญญานั้น ด้วยการสมาทานอุโบสถศีลในช่วงเวลา
กลางคืน
อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่ปุโรหิตอยู่ในศาล มีสตรีผู้สมบูรณ์
พร้อมด้วยศีลคนหนึ่งมายื่นฟ้องคดีความ ในช่วงใกล้ถึงเวลา
สมาทานอุโบสถ ขณะนั้น มีผู้นำผลมะม่วงสุกมาให้ปุโรหิต ปุโรหิต
รู้ว่าหญิงนั้นจะสมาทานอุโบสถศีล จึงหยิบมะม่วงส่งให้นาง
รับประทานให้อิ่มก่อน แล้วค่อยสมาทานศีลทีหลัง
เมื่อปุโรหิตสิ้นชีวิตลง ได้ไปบังเกิดเป็นเวมานิกเปรต ใน
วิมานทอง ประดับตกแต่งด้วยเครื่องทรงสวยงามวิจิตร ประณีต
แวดล้อมด้วยนางอัปสรหนึ่งหมื่นหกพันเป็นบริวาร มีสวนอัมพวัน
เป็นรมณียสถานใกล้ฝั่งแม่น้ำใหญ่ในป่าหิมพานต์
แต่สมบัติอันเป็นทิพย์จะเกิดขึ้นเฉพาะในเวลากลางคืน
เท่านั้น เมื่อรุ่งอรุณ อัตภาพอันเป็นทิพย์ก็อันตรธานหายไป
และกลายมาเป็นเปรตตัวสูงเท่ากับลำตาล มีเปลวไฟเผาลนอยู่
ทั่วร่างกาย เล็บมือแต่ละนิ้วโตเท่าใบจอบใหญ่ ซึ่งมีไว้สําหรับ
ควักเนื้อหลังของตนเองกิน ได้รับความทุกข์ทรมานเช่นนี้ไปจน
กว่าพระอาทิตย์จะตกดิน แล้วร่างนั้นจะอันตรธานหายไป กลาย