ข้อความต้นฉบับในหน้า
Dsuem ประชาช
พ้นกรรมเพราะการอุทิศส่วนกุศล
๕๑๑
ไปเสวยวิบากกรรม และเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม หลังจากตัวเอง
ตายไปแล้ว แต่ตอนที่นางยังมีชีวิตอยู่ กลับไม่เชื่อเรื่องบุญ
เรื่องบาป ซึ่งก็เหมือนกับคนทั่วๆ ไป ที่ยังมองไม่เห็นความเป็น
จริงของชีวิตในปรโลก ไม่รู้ว่าโทษของความตระหนี่และโทษ
ของความประมาทในภพชาตินี้ เป็นทางมาของความทุกข์ระทม
ที่ยาวนานในอบายภูมิ จึงปล่อยให้ชีวิตผ่านไปวันๆ โดยไม่ได้
สร้างกุศลเอาไว้ ปล่อยใจไปตามกระแสกิเลสที่คอยบงการ
คอยบังคับบัญชาให้คิดผิด พูดผิด ทำผิด ชีวิตจึงไม่มีโอกาส
ให้กระแสแห่งกุศลกรรมไหลผ่านเข้ามาในใจ ชีวิตหลังความ
ตายจึงต้องไปเสวยวิบากกรรมอันเผ็ดร้อนในอบายภูมิ
แม้ว่าเรื่องของชีวิตหลังความตาย เราจะยังพิสูจน์ไม่ได้
ด้วยตาเนื้อ หรือปฏิบัติยังเข้าไม่ถึงจุดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ตรัสไว้ แต่เราก็ไม่ควรด่วนปฏิเสธว่าไม่มี เพราะนั่นไม่ใช่วิสัย
ของบัณฑิต นักปราชญ์ ถ้าหากเราพลาดแล้ว ชีวิตในสังสารวัฏ
จะตกอยู่ในอันตราย เพราะเรื่องของกฎแห่งกรรมก็ดี โลกนี้
โลกหน้าก็ดี หรือนรกสวรรค์ก็ดี ล้วนเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วคือ
เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ส่วนตัวเราจะเชื่อหรือไม่ ก็ต้องดำเนินไป
ตามกฎแห่งการกระทำซึ่งเป็นกฎสากล