ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาช
วิบากกรรมของการพูดเพ้อเจ้อ
๑๖๗
มีบุญน้อย กุมารนี้ถูกทอดทิ้งในป่าช้า เป็นอยู่ได้ด้วยน้ำนมจาก
นิ้วมือตลอดราตรี ยักษ์ ภูตผีปีศาจ หรือสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย
ก็ไม่เบียดเบียนเด็กน้อยผู้มีบุญซึ่งได้กระทำไว้ดีแล้ว แม้สุนัข
จิ้งจอกก็พากันมาเดินวนเวียนเพื่อรักษาเด็กน้อยไว้ ฝูงนกฝูงกา
ก็พากันมาคาบเอามลทินของครรภ์ไปทิ้ง มนุษย์และอมนุษย์
ไม่ได้รักษาเด็กนี้ หรือใครๆ ที่จะทำเมล็ดพันธุ์ผักกาดให้เป็นยา
ให้แก่เด็กก็ไม่มี และไม่ได้ถือเอาการประกอบฤกษ์ยามใดๆ เลย”
พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ซึ่งเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว
ทรงมีพระปัญญากว้างขวาง ทอดพระเนตรเห็นเด็กน้อยที่เขา
นำมาทิ้งไว้ในป่าช้าในราตรี ช่วยเหลือตนเองยังไม่ได้ จะรอด
หรือไม่รอดก็ไม่รู้ และพระองค์ทรงพยากรณ์อีกว่า เด็กนี้จักเป็น
ผู้มีสกุลสูง มีโภคสมบัติมากในพระนครนี้ สิ้น 900 ปี จะเป็นผู้
พรั่งพร้อมด้วยเบญจกามคุณทั้งปวง เมื่อตายไปจักเข้าถึงความ
เป็นสหายแห่งท้าวสักกะในสัมปรายภพ
พวกอุบาสกอุบาสิกาที่ยืนอยู่ที่ใกล้พระบรมศาสดาจึง
ทูลถามว่า “อะไรเป็นวัตรเป็นพรหมจรรย์ของเขา เขาถึงความ
ลำบากเช่นนี้แล้ว กลับได้เสวยสุขสมบัติเช่นนั้น เพราะกรรมอะไร”
พระพุทธองค์จึงตรัสเล่าถึงบุพกรรมของเขาว่า “บุคคล
บางคนมีบุญมากเพราะสั่งสมบุญเอาไว้ บางคนมีบุญน้อย