ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
โทษของผู้รังแก สมณะ
៣៥៩
กรรมที่เราสร้างเอาไว้ เราทราบกันดีอยู่แล้ว ว่ามีทั้ง
กรรมดีและกรรมชั่ว ถ้าเราได้ทำกรรมดี ถือว่าเป็นโชคดี แต่ถ้า
เผลอไปทำกรรมชั่ว ชีวิตจะมัวหมองเป็นตราบาปติดตัวเราไป
ตลอดชีวิต ถ้าทำความดี ดวงบุญจะใสสว่างหนักขึ้นไปอีก
เราจะรู้เห็นและเข้าใจอย่างซาบซึ้งในสิ่งเหล่านี้ หลวงพ่อขอใช้
คําว่า เข้าใจอย่างซาบซึ้ง ไม่ใช่เข้าใจเฉยๆ แต่เข้าไปอยู่ในใจ
อย่างซาบซึ้ง เมื่อเราหยุดใจได้สนิท เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับ
ธรรมกาย จะเกิดความปีติสุขอยู่ทั้งวันทั้งคืน เมื่อเราเห็นบุญ
ได้แล้วเอาใจไปแช่อิ่มอยู่ในบุญ บุญจะเกื้อหนุนให้เรามีความสุข
ความสําเร็จบังเกิดขึ้นตลอดเวลา
บางครั้งคนเราอาจสังเกตตัวเราเอง หรือบุคคลที่เรา
รู้จักก็ได้ และเกิดความรู้สึกสงสัยขึ้นมาในใจว่า ชีวิตบางคน
ดาเนินมาได้ดีตลอด แต่มีบางช่วงที่เกิดมรสุมรุมเข้ามาในชีวิต
ทําให้เกิดการพลิกผันเพียงแค่ชั่วเวลาข้ามคืน จากมหาเศรษฐีก็
กลายเป็นยาจก หรือบางคนชีวิตอดอยากยากจน อับเฉามาตลอด
แต่จู่ๆ กลับประสบความสุขความสําเร็จอย่างที่ตนเองก็ไม่คาดฝัน
ชีวิตของมนุษย์ก็แปรเปลี่ยนอยู่อย่างนี้แหละเมื่อไรบุญในตัวพร่อง
กระแสบาปก็ดึงดูดเอาวิบัติเข้ามา ชีวิตก็สะดุด เมื่อไรกระแส
บุญในตัวเยอะ กระแสบาปตามไม่ทัน บุญก็บันดาลแต่สิ่งที่ดีๆ
ให้เรา ในภาษาธรรมะเรียกกรรมชนิดอย่างนี้ว่า อุปปีฬกกรรม