ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรร
โทษของการว่าร้าย
๑๓๘
น
พวกนี้ล้วนเป็นคนมักมาก มีลับลมคมใน เป็นผู้ทุศีลทั้งนั้น”
พระบรมศาสดาตรัสห้ามถึง ๓ ครั้งว่า “อย่าไปกล่าวร้าย
พระอรหันต์เลย” แต่พระโกกาลิกะไม่ยอมเชื่อ ว่าแล้วก็ยังลุก
จากไปโดยไม่เคารพยำเกรงต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เมื่อท่านเดินลับคลองจักษุของพระผู้มีพระภาคเจ้าไป
เท่านั้น ทั่วทั้งเรือนร่างของท่าน ก็เกิดเม็ดตุ่มประมาณเท่าเมล็ด-
ผักกาด ค่อยๆ พุพองใหญ่ขึ้นทีละเล็กทีละน้อย จนเท่าผลพุทรา
แล้วโตใหญ่ขึ้นขนาดผลมะตูมสุก จากนั้นตุ่มก็แตกออกเป็น
นํ้าเลือดน้ำเหลืองไหลโทรมกาย ส่งกลิ่นเหม็นเน่าฟุ้งออกจากตัว
ท่านต้องนอนเจ็บปวดทุรนทุรายอยู่ที่ซุ้มประตูวัดพระเชตวัน
ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ เรื่องนี้ได้มีการโจษจันไปในวงกว้าง
ตั้งแต่หมู่มนุษย์ เทวดา จนถึงพรหมโลก ว่าพระอัครสาวก
ทั้งสองถูกพระโกกาลิกะด่าบริภาษ
สมัยนั้น ตุทุพรหมซึ่งเคยเป็นอุปัชฌาย์ของพระโกกาลิกะ
เมื่อได้ทราบเรื่องนั้น ก็อยากจะช่วยเหลือลูกศิษย์ให้พ้นจาก
ความทุกข์ทรมาน จึงลงมาจากพรหมโลก มายืนอยู่ในอากาศ
ต่อหน้าพระโกกาลิกะ เปล่งรัศมีสว่างไสวไปทั่วอาณาบริเวณ
วัดพระเชตวัน พร้อมกับบอกลูกศิษย์ว่า “โกกาลิกะ ท่านจง
ทําความเลื่อมใสในพระอัครสาวกทั้งสองเถิด อย่ามีจิตคิด