ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
โทษของความอิจฉาริษยา
២៥៩
มนุษย์เราต่างมีองค์ประกอบอยู่ ๒ ส่วนด้วยกัน คือ กาย
และใจ กายประกอบด้วยธาตุสี่ มีสภาพไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่
และดับไป ส่วนใจเป็นนามธรรม มีสภาพชัดส่ายไปมา ไม่หยุดนิ่ง
และโดยความเป็นจริงแล้ว แม้ว่ากายจะดับ แต่ใจดวงนี้ไม่เคย
ดับสูญ กลับเคลื่อนย้ายจากกายไปสู่สภาวะใหม่ ตามแรงกรรม
ที่ได้ทําเอาไว้ ความแตกต่างที่น่าพิศวงอีกประการหนึ่งของกาย
และใจก็คือ กายนั้นแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงจากเกิดไปสู่ความดับ
และอีกทั้งเป็นรูปธรรม แต่กลับไม่มีใครสามารถบังคับบัญชา
หรือโน้มน้าวให้เป็นอย่างที่เราต้องการได้ ส่วนใจเป็นนามธรรม
ไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่พร้อมที่จะยอมรับการฝึกฝน
เมื่อฝึกฝนใจจนกระทั่งละเอียดอ่อน นุ่มนวลควรแก่การงานแล้ว
จะโน้มน้าวใจไปที่ไหนก็ได้ตามความต้องการของตน
มีถ้อยคำที่เปรตตนหนึ่งกล่าวไว้ใน มัตตาเปติวัตถุ ว่า
“ฉันได้ทําบาปกรรมเอาไว้ จึงไปสู่เปลโลก ฉัน
อนุโมทนาทานที่ท่านให้แล้ว จึงไม่มีภัยแต่ที่ไหน ขอท่าน
พร้อมด้วยญาติทุกคน จงมีอายุยืนนานเถิด ขอท่านจง
ประพฤติธรรมและให้ทานในโลกนี้ แล้วจะเข้าถึงฐานะอันไม่
เศร้าโศก เมื่อท่านก่าจัดมลทินคือความตระหนี่พร้อมด้วย
รากแล้ว ใครๆ ก็ติเตียนท่านไม่ได้ จักเข้าถึงโลกสวรรค์”