ข้อความต้นฉบับในหน้า
[๑๙] อรรถกถา โกณฑ์กล่าวดูว่า "บรรดาบาล่านํ้าขอว่า ปฏิปทาเทส ความว่า เลี้ยงดูด้วยมินฑบาท, อธิบายว่า ได้ด้วยมินฑบาท. บทว่า สตูคุตตุตู๒ ครั้ง, ก็นำว่าบูคุตุตู นี้ พึงทราบความด้วยอานุฌบพตนากและปัจฉิมตน. แท้จริงในกลดถวายมินฑบาทครั้งเดียว เจตนาดวงเดียวเท่านั้นจะให้ปฏิสัย ๒ ครั้งไม่ได้น. ก็เศรษฐีมิใช่มิสูญบังเกิดในสรรค์๑ ครั้ง, ในสุตกเศรษฐี ๓ ครั้ง เพราะบูฑฑพขนาดและปัจฉิมตนว่า "ฤทธิ์กโกณฑ์กล่าวดูว่า "เมื่อน ฤทธิ์กิจก็ว่ากว่า ท่านจงถวายมินฑบาทแก่สมณะนี้" ความสำเร็จประโยชน์นี้ได้อาจารย์ชวนวิธีเดียวเท่านั้น, ที่แท้ ในกลดถวายมินฑบาทครั้งเดือนั้น วรวะแห่ง ชนะอันเป็นไปในอั้งตันก็ วรวะแห่งชนะอันเป็นไปในท่ามกลาง ในภายหลังก็มีอยู่, พระอรรถกถาจารย์กล่าวว่าหมายเอาชนะทั้ง ๒ นั่น ว่า ปุพพุปุจฉา๑ ดังนี้." [๒๙] เพราะฉะนั้น เจตนาแม้นทั้ง ๓ พึงทำให้บริบูรณ์. ด้วยว่า เมื่อดูถูกทำอย่างนั้น ท่านย่อมมีผลมาก. ด้วยเหตุนี้ ในอรรถกถา มียกคุณชาดก ท่านจึงกล่าวว่า "ก็ธรรมกว่าทาน ย่อมมีผลมากแก่บุคคลผู้ม่าทำตานทั้ง ๓ ให้บริบูรณ์เท่านั้น" ดังนี้. [๒๐] อีกอย่างหนึ่ง ความที่ท่านนั้นมีผลมาก พึงทราบแม้ด้วย สามารถเวลาอุตตรและทักษิณาวิงค์สูตร. จริงอยู่ ในเวลาอุตตรในวรรคบท อังคุตตรนิกาย พระผู้มีพระภาค ตรัสเท่านั้น ๑๕ อย่าง โดยประเภทแห่งปฏิคหก. ความว่า