ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๕ - มุงคลัตถิที่เป็นเปลา เล่ม ๓ - หน้าที่ 141
จึงกล่าวว่า ตมุปุป อุปสมตน ฯ เป ฯ วิจารณพุ่ง กลัง
บทว่า วาด ภินทุตวา พึงทราบวินิจฉัยดังนี้ ผู้รักษาอุบาส Pdง
ทำการกำหนดคาว่า (เราจึงอาศุบาโลสด) ตลอดคืนนี้ และ
ตลอดวันนี้ แล้วทำโดยรวมกันด้วยอำนาจองค์อุบาสว่า “ ข้ามเจ้า
สมาทานศีลขาทน ฯ ” แล้วทำการเปลี่ยววาทสมาทานองค์อุบาสเฉพาะ
องค์ตามบัญญัติอย่างนี้ว่า “ ปาณาติปาต เวรมณีอันขาทน ฯ ”
เป ฯ อุบาสายมหามายา เวรมณีอันขาทน ฯ สมาทานิ
แต่เมื่อไม่รู้บดี พึงสมาทานเฉพาะองค์ด้วยภาษาของตน หรือด้วย
อำนาจอธิษฐานโดยรวมกันว่า “ ข้ามเจ้าอธิษฐานอุบาสที่พระพุทธเจ้า
ทรงบัญญัติไว้แล้ว” เมื่อไม่ได้อธิษฐานเองก็ได้. แท้จริง
ศิลาของอุบาสกอันบุคคลผู้รักษาอุบาสสมาทานรวมกันดีดี สมาทานใน
สำนักงานอุบาสดี คือตัววาสมาทานแล้ว สมาทานรวมกันดีดี สมาทาน
เฉพาะองค์ดีดี ก็เป็นอันสมาทานเหมือนกัน ถามว่า ความแตกต่าง
กันจะมีได้อย่างไรเล่า? ก็ว่า เมื่อสมาทานร่วมกัน วิธีคืออย่างเดียว
เท่านั้น. เมื่อกี้มิฉะนั้นดียมเหมือนกัน. แต่วิริยะและความตั้งใจ ทำกิจ
ของวิริยะและเจตนาทั้งหมด เพราะเหตุนี้ ศิลาบนทั้งหมด จัดว่า
องค์ผู้รักษาอุบาสทานแล้วโดยแท้ ด้วยการสมาทานร่วมกันแท้แน่นั้น.
องค์นั้น เมื่อสมาทานเฉพาะองค์ วิธีดีและเจตนาที่ต่าง ๆ กัน ย่อมเกิด
ขึ้นตามหน้าที่ด้วยอำนาจก็เป็นไปตามนี้. ก็ในกาการสมาทานทุกอย่าง ควรทำการ
เปล่าออกจากโดยแท้. บทว่า ปรํปรโธปฏิยัตถู๔ คือ ที่เกี่ยวกับการเบียนเนียน