ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค ๕ - มังคีลาลํปาเชิญนี้เป็นเปล่า เล่ม ๓ - หน้า ๑๗๖
กรรมกีลาส นัยแม้ในอนินทานเป็นต้น ก็อย่างนี้เหมือนกัน บทว่า อนาประ ได้แก่ คาถาพันธมัยอันอีก คือ ที่แสดงเนื้อความนั้นแสดง
[๑๒๖] ฤทธิภิกขาสูตรนั้น ว่า "กีลาสทั้งหลายที่เป็นอุทธรรรมชื่อว่าสิกาลาสุขะ" กล่าวว่า ศรัทธามองคือ หม่น หมอง กีลาสว่าสัตว์ทั้งหลายเป็นผู้ผูกกรรมกีลาสันเนียรเบียบเบรียนและเผาผลาญแล้ว บทว่า ตสมา มีอรรถว่า เพราะความที่กรรม
นั้นมีความสร่างงเป็นนิมิต สองบทว่า กีลสมุผุตฺตา กิเลโล พระอรรถาถาถ่ายว่าความที่กรรมเป็นไปกับอัธร
ประกอบด้วยกิเลสนั้น เหมือนอุทธารณ์ว่า "ปฐมานามีดี
และสุข" และว่า "ผ่าเขียว" ดังนี้ ก็ความที่กรรมสับปะฏิวัติด้วยกิเลส
ในบทว่า กุมภิกิลาส นี้ บัดนี้ตัชชัยทํารับโดยความในกรรมมี
อรรถปึ้นอย่างเดียวกันกับกิเลสนี้ ไม่พึงทราบโดยความเป็นกรรม
ซึ่งเกิดขึ้นในชนิดเดียวกันเป็นต้น ก็เพราะทำอธิบายอย่างนี้ ความ
ที่กรรมคือปาณาติบาต เป็นธรรมชาติเสร็จรามแล้ว แม้เพราะ
ทุจริตนมและโลภะเป็นต้น จึงเป็นอันสำเร็จแล้ว ความที่มีจิตอาริ
เป็นบาปธรรมเศร้าหมองแล้ว เพราะโลภะเป็นต้น ก็เหมือนกัน
เหตุนี้ นั่นจึงกล่าวคำเป็นต้นว่า สกิลีกโลสย″ ดังนี้ ส่วนการ
ยักเรียกกรรมเหล่านั้นว่า กิเลส ย่อมได้แสดงหน้าที่เดียว ด้วย
สามารถแห่งเนื้อความที่กล่าวไว้ในก่อน บทว่า ตตบุรีปกโมย
คือ แสดงเนื้อความที่พระผู้พระภคัตร9ไตร้ โดยยันต์เป็นต้นว่า
"ปาณาติบโต โว" ดังนี้เอง เพื่อจะกลึ้งเกี่ยวปัญหา ถ้า