ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยคที่ ๕ - มังคลดาถึ๋เป็นเปล่ เล่ม ๓ - หน้าที่ 147
อินพระองค์ทรงตั้งไว้ในตำแหน่งวินิจฉัย เป็นผู้กินเนื้อหลังของผู้อื่น ด้วยการกินสับบนจงไม่สมาทาน. ในวันอุโบสถวันที่หนึ่งตอนกลางวัน เขารับสัปทาคำทำดีโกแล้วไปสู่ที่บำรุงพระราชา ถูกพระราชรัสดถามว่า "อาจารย์แม่ท่านก็รักษาอุโบสถหรือ?" จึงทูลท้วงว่า "พระพุทธเจ้าข้า" แล้วลงจากปราสาทไป. ที่นั่น อวดองค์หนึ่ง โจทเขาว่า "ท่านไม่รักษาอุโบสถมิใช่หรือ?" เขาพูดว่า "เรา บริโภคในเวลาเท่านั้น ไปสู่เรือนแล้ววันปกติฐานอุโบสถคอน เย็นจังไม่บริโภค จักรกษัติลดตอนกลางคืน, เมื่อเป็นเช่นนี้อุโบสถก ครรมึงนี้จึงมีกิเราว" ดังนี้แล้วไปสู่เรือน ได้ทำเหมือนอย่างนั้น. ในวันอุโบสถว่นึ่งอีก หญิงมีศิลคนไดคนหนึ่งเป็นความ เมื่อ ไม่ได้เมื่อจะไปสู่เรือนคิดว่า "เราจักไม่ก้าวล่วงอุโบสถกรม" เมื่อกลวนเข้ามา จึงรับรบ่าสู่บรร" เมื่อเป็นเช่นนี้อุโบสถ จึงพูดว่า "ท่านจงเตี้ยกินผลมะม่วงนี้แล้วรักษา อุโบสถเอ็ด" แล้วได้ให้ผลมะม่วงแก่ผู้นั้น. กรรมของบูรฬิหมี เพียงเท่านี้. ในกาลต่อมา เขาทำกลายแล้ว ได้เป็นมานีบเบรด. มี นางเทพัญญาหมิ่นหกพันห้องล้อม ในวิมานทองคำในบ่ไม้ม่วง ประมาณ ๓ โยชน์ใกล้ฝั่งคงในวันชาติ. ก็เคราะห์สวมบัติ ในเวลาค่ำคืนเท่านั้น เมื่ออรุณขึ้น ก็เข้าไปสู่ป่าม่วง. ในขณะ ที่เขาเข้าไปปั้นเอง อัตภาพอ่อนเป็นทิพย์ก็อัศจรรย์ อัตภาพมี
๑. ปฏิมิสีโก หมายถึงผู้พากษาไม่ยุติธรรม An unfair judge นัยนี้ หมายถึงผู้ตีบู้อื่นหลัง One who talks behind person's back.
๒. อภิญญา โรญาติ ท่าอยู่เชิงคี.