ข้อความต้นฉบับในหน้า
๙. ประโยค๕ - มังสลีกถิ่นนี้บิ่นเปล่า เล่ม ๓ - หน้าที่ 180
[๒๖๒] อรรถกถาสุราปานิสิกขาขวัญว่า "ปานชาติดใส่เชือแง่ง
ชื่อว่าสุราปานชาติดที่ว่าด้วยรสแม่เหงมะพร้าวเป็นต้น ย่อมถึงการ
นับว่าสุราหน้ากัน. อาจารย์บางพวกกล่าวว่า เมื่อดึกน้ำใสสถาน
สุราที่เขาเชื่ออันแสนแล้ว สุราที่เหลือถึงการบำเวรทันที. น้ำ
ดองที่เขาทำด้วยรสแห่งดอกมะซางเป็นต้น ชื่อว่าน้ำดองดอกไม้.
น้ำดองที่เขายำผลอุ่นเป็นต้น ทำด้วยผลอุ่นเป็นต้นเหล่านั้น ชื่อว่า
น้ำดองผลไม้ น้ำดองที่เขาทำด้วยรสชาติของผลอุ่นทั้งหลาย ชื่อว่า
น้ำดองน้ำหวาน. อาจารย์บางพวกกล่าวว่า เขาทำด้วยน้ำหวานแห่ง
แมลงผึ้งงบ.
[๒๖๓] ภูมิแห่งอรรถกถาทั้งหมดตามาที่กล่าวแล้วว่า "รส
ดกะชาง ตาร และมะพร้าวเป็นต้น ที่หมักไว้นาน ชื่อว่าน้ำดอง
ดอกไม้. รสผลไม้มิชุนเป็นต้น ที่หมักไว้นาน ชื่อว่าน้ำดองผลไม้.
รสผลอุ่น (ที่หมักไว้นาน) ชื่อว่าน้ำดองน้ำหวาน. รสนี้ออองบ
ที่หมักไว้นาน ชื่อว่าน้ำดองน้ำออ่อน. รสของเครื่องปรุงต่างๆ มิสของอ
ไทย มะขามป้อม และของผลเป็นต้น ที่หมักไว้นาน ชื่อว่าน้ำดอง
ผสมเครื่องปรุง."
ภัทราสคาถาสุราพร้อมทั้งอรรถกถา ว่า "วัตถุมัง ๑๐ อย่าง
แม้ทั้งหมดนั้น ชื่อว่าน้ำมะ ด้วยสามารถเป็นเหตุแห่งความเมา เพราะ
ทำวิเคราะห์ว่า 'ย่อมยังบคบุคผู้ดื่มให้เมา.'"
[๒๖๔] อรรถกถา"จุฑาทปุธะ"ว่า "สุรานะเมริยัง ๒ อย่าง