ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๕ - มังคลิตตาปีนี้แปล เล่ม ๓ หน้าที่ ๙๙
แล้ววันนี้."
[๔๕] ถูกอากงจีนขยุงสูตร ว่า "สองกว่า 'อาสาวะ ขย" คือ
เพราะความกวนนี้ได้ดีดงักงอสะท้านหลาย ที่ยังเหลือจากอาสะ
อันพระอรหันต์เข้าให้สิน ไปแล้วด้วยมรรคเนืองดำ ด้วยพระอตตมรรต
กี่พระอรหันต์มรรค ย่อมหย่าคมสะวะให้หมดไปอย่างเดียวเท่านั้นไม่,
ที่จริง ย่อมยังคงเหลืออยู่เต็มไปด้วย; เพราะเหตุนี้,
พระอรรถกถาจึงกล่าวว่า 'สมุทปกิตสาน ขย" ดังนี้. แท้จริง
อาสวะ ศพท ในคำว่า อาสวะ ขย นี้ เป็นเพียงเครื่องเข้าไปกำหนด.
ชื่อว่า หอสะวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลาย ไม่เข้าถึงความเป็น
อารมณ์ได้. ก็แม้แต่แห่งอาสวะทั้งหลาย ในคำว่า อาสวะ ขย นี้
ย่อมไม่มี; เพราะเหตุนี้นั่ง พระอรรถกถาจึงกล่าวว่า 'อาสิว-ติด.' อธิบายว่า มาฐ พระผู้พระภาค ตรัสโดยจิตเป็นประธาน
เหมือนอุปาทานว่า นะผู้มีปัญญาดีอยู่ในศีล พึงยังสมาธิและ
ปัญญาให้เจริญดังนี้. คำว่า ราวโต วิภุตตา อวิชาช วิภุตตา
นี้ บัญฑิตพึงเห็นว่า เป็นคำแสงธรรม อันลงระงับจากธรรม
ที่เป็นข้าศึก โดยตรง เพราะบาปธรรม อันลงระงับจากธรรม
สงบไม่ไหวติง. บัดนี้ พระอรรถกถาจึงกล่าวว่า 'วุตฺญาณฑ"
เป็นต้น เพื่อจะแสดง ความที่สมาธิและปัญญาเป็นธรรมที่เป็นข้าศึก
ต่อกฎอวิชาร์นเอง โดยทํา ม. ทวา สงผลัง มีความว่า เจโตมุตติ
ชื่อว่าเป็นผลของสมะ เพราะมีผลแม้นกันผลแห่งโลกุตตรสมะ
ที่มีกำลังอันสมถาวานซึ่งเป็นโลโกะ นำส่งให้อัปสน. แม้นก ว่า